1 | พูดคุยกับอีกอน คาเซอริอุส พูดคุยกับอีกอน คาเซอริอุสพูดคุยกับอีกอน คาเซอริอุส |
2 | ใช้รอยแยกความทรงจำ ใช้รอยแยกความทรงจำใช้รอยแยกความทรงจำ |
3 | ค้นหารอยแยกความทรงจำอีกแห่งในแผนที่ระดับ 14+ ค้นหารอยแยกความทรงจำอีกแห่งในแผนที่ระดับ 14+ค้นหารอยแยกความทรงจำอีกแห่งในแผนที่ระดับ 14+ |
4 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำ |
5 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำ |
6 | ผ่านความทรงจำแห่งความเดียวดายให้เสร็จสิ้น ผ่านความทรงจำแห่งความเดียวดายให้เสร็จสิ้น ด้วยการพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณผ่านความทรงจำแห่งความเดียวดายให้เสร็จสิ้น ด้วยการพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ |
7 | Complete the Courtyard of Wasting Complete the Courtyard of Wasting.Complete the Courtyard of WastingNPC: อัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ อดีตของอัลวา: ตอนข้ายังเยาว์วัย พ่อข้าพาข้าไปผจญภัยครั้งแรกด้วยการพาข้าไปเข้าทัพเรือของโดมินัส ข้าเคยรักทะเล กลิ่นทะเล อากาศบริสุทธิ์ แต่... มี 'บางอย่าง' เกิดขึ้น และข้ากลับไปธีโอโพลิสหวังจะอยู่ต่อเยี่ยงสุภาพสตรี เหอะ ข้าไม่ได้สมหวังหรอก แน่นอน
ข้าโหยหาความตื่นเต้นและมันก็พาข้ามาหาสมาคมนิยมวัตถุโบราณ สังคมลับของพวกนักล่าสมบัติ มีน้ำเลี้ยงจากพวกชนชั้นสูงที่เย็นชาและละโมบ ข้าให้พ่อข้าใช้เส้นสาย พอมารู้ตัวอีกทีก็ถลำเข้ามาลึกแล้ว ลุยวิหารและสุสานมาทั่วแผ่นดิน แต่ก็นะ... เจ้าก็เป็นเอ็กไซล์อะนะ เจ้าคงรู้ว่าพวกเทมพลาร์เป็นยังไง เชื่อถือไม่ได้หรอก ตอนที่ข้าไปเจอคู่มือมนต์มณีเลือดวาล์น่ะ ข้ารู้ว่าข้าปล่อยให้คู่มือนั่นไปอยู่กับพวกนั้นไม่ได้ พวกมันไม่ได้คู่มือนั้นไปเลย
แต้ไอ้เทมพลาร์ระดับสูงนั่นรู้ว่าข้าซ่อนอะไรไว้... และจากนั้นข้าก็ถูกเฉดหัวออกจากสังคมขุนนาง มาอยู่ที่นี่ โชคดีที่ที่นี่มีโอกาสหาเงินทองมากมาย และลูกค้าเก่าข้าหยิบมือนึงยังภักดีกับข้าเสมอ ถ้าว่าด้วยเรื่องการใช้เงินในกระเป๋าของพวกนั้นอัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ โอริอาท: ตลาดส่วนใหญ่ของข้าก็ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว... แต่ข้าปรับตัวเก่ง มีโจรสลัด หัวขโมย ทรราช และคนบ้าอีกเพียบที่ยอมจ่ายก้อนโตแลกกับสิ่งที่ข้าพบ
ข้าอาจต้องออกไปตามหาพวกนั้นหนักสักหน่อยเท่านั้นเองอัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ แอ็ทโซแอทล์: วิหารแอ็ทโซแอทล์ที่หายไปน่ะว่ากันว่าเป็นวิหารที่ดังที่สุดในประวัติศาสตร์และตำนานของพวกวาล์เลยนะ ข้าเล่าได้อย่างมากคือเขาเริ่มสร้างวิหารกันในช่วงท้ายๆ ของจักรวรรดิวาล์ แต่เสร็จตอนไหนก็บอกยาก เพราะมันเสร็จไม่นานก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้อารยธรรมนั้นสิ้นสูญ
อาจจะเพราะว่าเส้นเวลานี้มันเปราะบางจนแอ็ทโซแอทล์เป็นส่วนสำคัญของตำนานวาล์เลย บางคนก็ว่าเป็นสถานที่แห่งความมืด เป็นสถานที่ทำบูชายัญที่เลวร้ายที่สุด แต่บางคนก็อ้างว่าวิหารเป็นบ่อเกิดของเทคโนโลยี ขนาดว่าแม้แต่เทคโนโลยีของเรายังไม่ได้ขี้เลื่อยของสิ่งที่พวกเขาสร้างกันในกำแพงพวกนั้นเลย
ทุกวันนี้นักวิชาการหลายคนยังบอกด้วยซ้ำว่าเป็นขุมสมบัติของราชินีอัถสิริ ไม่ว่าเรื่องไหนจะจริง มันก็ย่อมมีพวกเชื้อพระวงศ์และพวกคลั่งปกป้องอยู่แน่ และหากในนั้นมีอะไรที่มีค่าพอที่จะปกป้อง มันก็มีค่าพอที่จะเอามา!อัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ แนะนำตัว: ขอบคุณเหล่าทวยเทพ! ข้าเห็นอยู่ว่าเจ้าไม่ใช่นักบุญ แต่ข้าจะบังอาจตั้งคำถามกับพระประสงค์ว่าจะมาในรูปแบบไหนได้อย่างไรเล่า?
ข้าคืออัลวา วาไลผู้ยิ่งใหญ่! จากสมาคมนิยมวัตถุโบราณอันใหญ่ยิ่ง! ผู้ค้นหาความลึกลับ ผู้สำรวจสิ่งไม่รู้จัก ผู้รักสรรพสิ่งระยิบระยับ และข้าต้องการความช่วยเหลือของเจ้า
วิหารแอ็ทโซแอทล์ที่สาบสูญ ของล้ำค่าเรียงรายไปทั่วโถงทางเดิน กล่องเต็มไปด้วยสมบัติระยิบระยับกับวัตถุโบราณที่มีพลังมหาศาล! มันสาบสูญไปหลายกัลป์... จนถึงตอนนี้อัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ ไอนาร์: ไอนาร์คงจะเข้ากับจักรวรรดิของอัถสิริเป็นอย่างดี เขาคุ้นเคยกับพิธีบูชายัญเป็นอย่างดี แต่ก็ยังดีที่เขาสังเวยเพียงสัตว์เท่านั้น เขาคงไม่มีความสนใจในความมั่นคั่งมากนัก ซึ่งก็ดีกับข้ามาก ตราบใดที่ไอนาร์ทำแต่สิ่งที่เขาทำได้เก่ง เราจะไปด้วยกันได้ดีอัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ เฮเลน่า: เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักนะ ข้าเคยทะเลาะกับเธอสมัยที่อยู่โอริอาท แต่ข้าคิดว่าเธอจำไม่ได้หรอก... ซึ่งก็ดีแล้ว ตอนนั้นข้าขายของตกทอดของปลอมอยู่ และเธอก็ตาดีเรื่องของปลอมด้วย ในเมื่อตอนนี้ข้าทำงานอย่างถูกกฎหมาย เรียกแบบนั้นแล้วกัน ข้าก็อยากทำความรู้จักกับเธอมากกว่านี้อัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ จุน: ข้าพยายามเอาใจจุนนะ เธอไม่ได้ก้าวร้าวอะไรนักหรอก อย่างน้อยก็กับข้า แต่ข้าเคยเห็นเธอลับมีดแล้วเหม่อมองไปแสนไกล ข้าจำแววตานั้นได้จากช่วงที่ข้าอยู่กับนักล่าสมบัติที่ชื่อไม่ดีนัก แววตานักฆ่า เธออยากปลิดชีพใครสักคนอัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ นิโค้: นิโค้เป็นคนที่ออกจะ... แปลก ก็จริงนะ แต่ถ้าเจ้าทนกับความเพี้ยนของเขาได้ เขาก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์เสียทีเดียว เหมืองที่เขาป้องกันอย่างเอาเป็นเอาตายก็มีของดีระยิบระยับเต็มไปหมด ข้าพยายามตีซี้กับเขาเผื่อวันไหนที่เขาได้พบแหล่งแร่ล้ำค่า ข้าจะได้อยู่ข้างเขาตรงนั้นไงอัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ ซานะ: ข้าไม่เคยเห็นใครที่หวงสิ่งที่ตัวเองสร้างเท่ากับซานะเลย มันก็ใช่ว่าเครื่องนาฬิกาดาวของเธอจะส่งเราย้อนเวลาไปได้สักหน่อย... เดี๋ยว มันทำได้หรือเปล่า? เครื่องนั้นมันทำอะไรได้กันแน่? ข้าเคยเห็นสถานที่ที่มันนำเธอไปนะ บางที่มันน่าขนลุกขนพองจริงๆ! สถานที่แบบนั้นทำให้พวกวาล์ดูเชื่องเหมือนลูกแมวเลย แต่ไม่ใช่ซานะ... เธอเป็นสิงโตที่มีหน้าเหมือนลูกแมวอัลวา มาสเตอร์แห่งการสำรวจ ภาคีแห่งจินน์: คนของจุนผ่านมาตามประวัติศาสตร์แล้วเก็บรวบรวมของโบราณอันทรงพลังไว้ใช่ไหม? เจ้ารู้ไหมว่าเคยมีของโบราณแบบนั้นจากวิหารแอ็ทโซแอทล์มาก่อนหรือเปล่า... ไม่เหรอ? ก็ได้ แค่คิดดูเล่นๆ น่ะไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ อัลวา: ข้ารักอัลวาจริงๆ! เธอเป็นลูกศิษย์ของมนต์มณีโลหิตเหมือนกับไอนาร์ เธอเก็บสะสมสิ่งต่างๆ เหมือนกับไอนาร์ แต่ข้าเก็บสะสมสิ่งต่างๆ เพื่อให้เรารอดจากวันสิ้นโลก ขณะที่อัลวาเก็บสะสมสิ่งต่างๆ จากผู้ที่ไม่รอดจากวันสิ้นโลก! เหมือนเราเป็นหมาล่าเนื้อสองหัว แต่หัวของเธอกลับไปอยู่ตรงก้นของมันเฉยเลย!ไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ เฮเลน่า: แม่สาวการ์ดดำนั่นเหรอ? ไอนาร์เกลียดพวกการ์ดดำ... แต่ข้ารักเฮเลน่าจริงๆ! เธอตามหาที่หลบซ่อนเก่งจริงๆ ข้าชอบตามหาเธอ แล้วข้าก็จะซ่อนตัว รอให้เธอตามหา! เธอไม่เคยหาข้าเจอเลย! ข้าชนะอยู่ตลอด! ...พอข้ากลับมาคิดดูแล้ว ข้าว่าเธอคงไม่รู้ว่าควรมาตามหาข้า คราวหน้าข้าคงต้องบอกเธอก่อนที่จะไปซ่อนตัวน่ะนะไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ จุน: เธอลึกลับจริงๆ เจ้าคนพลัดถิ่น ข้าก็รักความลึกลับด้วย! เธอบอกข้าว่าเพื่อนเธอทุกคนหายตัวไป เหมือนกับที่ไอนาร์ได้เจอกับตัวเลย! เธอคิดว่าเพื่อนของเธอตาย แต่ข้าไม่คิดว่าเพื่อนของข้าตาย พวกเขาหายตัวไปหลังจากที่ข้าเปิดกะโหลกสัตว์แล้วควักสมองมันออกมาตอนที่เรากำลังกินกันอยู่ เราไม่ได้กินเนื้อกวางกันด้วยซ้ำ! ข้าจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าข้าพบสัตว์นั่นที่ไหน! มันเป็นวันเกิดที่ยอดเยี่ยมจริงๆไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ นิโค้: โอ้... นิโค้... ข้ารักนิโค้! ไอนาร์ขุดไปตามท้องของสัตว์ร้ายเพื่อหาสัญญาณจากเหล่าเทพผู้บุกเบิก ส่วนนิโค้ก็ขุดไปตามพื้นดินด้วยเหล็กแหลมอันใหญ่! แถมเขายังคุยกับเหล่าเทพผู้บุกเบิกเหมือนกับข้าด้วย หรือ... ข้าว่าเขาพูดแหละ เขาพูดกับใครบางคน! แล้วเสียงนั้นก็ยอดจริงๆ! แต่เขาก็ช่างผอมนัก ข้าไม่มั่นใจนักว่าเขาจะเป็นผู้รอดชีวิตไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ ซานะ: ไอนาร์รักซานะจริงๆ! เส้นผมของเธอทำให้ข้านึกถึงภายในตัว Devourer ที่เป็นสีแดงเป็นสาย เธอมักพูดอะไรหลายอย่างที่ข้าไม่เข้าใจ และได้จดตำแหน่งสถานที่ต่างๆ ที่ข้าไม่เคยได้ไป ถึงแม้ว่าข้าจะเคยไปมาทุกที่แล้วก็ตาม! ลึกลับจริงๆ! ไอนาร์ชอบความลึกลับกับสถานที่ต่างๆ เธอไม่ได้เจอพบของเธอมานานมากแล้ว ข้าจึงพยายามทำตัวเป็นพ่อของเธอ ข้าพยายามให้เธอได้กินเนื้อที่แดงพอๆ กับเส้นผมของเธอ "มันจะทำให้ผมของเจ้าแดงเป็นสาย" เธอบอกให้ข้าปิดตาตอนที่เธอกิน ผมเธอสีแดงและเป็นสายจริงๆ มันต้องได้ผลแน่ๆ!ไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ หน้ากากของไอนาร์: ใช่ นี่เป็นหน้ากากของไอนาร์เอง เก่งมาก เจ้าเอ็กไซล์!นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก อัลวา: ข้าคุ้นเคยกับคนอย่างเธอ คอยดมหากลิ่นสมบัติ แต่ทำทุกวิถีทางไม่ให้จมูกตัวเองเปื้อน ถึงจมูกคนอื่นจะเปื้อนก็ตาม ไม่เอาดีกว่า ไม่เป็นไรนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก อัลวา: ข้ารู้จักเธอแน่ๆ ไม่สนใจเธอนักหรอก คนอย่างเธอชอบให้คนอื่นทำงานหนักให้เธอ ข้าทำงานของตัวเองดีกว่า ไม่เป็นไรนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก อัลวา: ข้าเห็นเธอสอดส่องในเหมืองของข้า... เธอคงตามหาของดีที่ที่ไม่ถูกคุ้มกันแน่ๆ โชคดีที่ข้าไม่มีของมีค่าอะไรเลย!นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก อัลวา: อ๋อ ใช่... นักเดินทางย้อนเวลา เธอบอกว่าเธอย้อนเวลาได้ แสดงว่าเธอต้องมาจากอนาคตแน่ๆ เหะ? แต่พอข้าถามเธอว่าข้าจะทำอะไรต่อ เธอก็ตอบข้าไม่ได้ มีพิรุธจริงๆนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก อัลวา: แม่สาวนั่น... มันคอยจับตาดูเครื่องของข้าอยู่ ข้ารู้ว่ามันต้องการเครื่องนั่น นังโลภ-... มันจะไม่มีวันครองแน่ๆ แตะแม้แต่ปลายนิ้วก็ไม่ได้ หากมันลองดี ข้าจะจับมันฝังทั้งเป็นนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ไอนาร์: ไอนาร์... ไอนาร์มันไม่ยอมปล่อยข้าไปเลย! "เราจะเป็นเพื่อนที่ดีนะ? เราจะรอดจากเหล่าเทพผู้บุกเบิกนะ?" ไม่ ไอนาร์ เรื่องบ้าๆ นั่นไม่จริงเลยสักนิด แกมันเป็นบ้า ช่วยไปอาบน้ำอาบท่าบ้างเถอะนะ!นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ไอนาร์: ไอนาร์นั่นเอาแต่ขนผิวหนังกับอวัยวะมาให้ข้าราวกับว่าไอ้ของพวกนั้นเป็นของขวัญงั้นแหละ ข้าจะเอาไต Hellion ครึ่งหนึ่งไปทำบ้าอะไรล่ะไอนาร์? เหะ? ข้าไม่ต้องการมัน ไม่มีใครต้องการมันเลย ไม่มีใครต้องการแกด้วย อยู่ในสวนสัตว์เล็กๆ ของแกต่อไปเถอะ!นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ไอนาร์: รู้ไหม ข้ากับเขาได้ใช้เวลาด้วยกันมาบ้าง ข้าขอบอกเลยว่า... ข้าไม่ชอบเขาเลยสักนิด เขาตัวเหม็น ปากมากเกินไป ข้าบอกให้เขาไสหัวไปให้พ้น เขาก็หัวเราะแล้วตบหลังข้า! ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะโว้ยนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ไอนาร์: ไอนาร์มันบ้าสิ้นดี แต่รู้ไหม? ข้าเริ่มชอบเขาแล้ว ข้าไม่อยากเอาหินฟาดหน้าเขาอีกต่อไปแล้ว ซึ่งคงจะพอมีค่าอยู่บ้าง ที่แปลกก็คือเวลาที่เขาไม่อยู่ ข้ายังได้ยินเสียงหัวเราะของเขาอยู่ หรือเสียงหัวเราะใครสักคน... อาจเป็นเสียงหัวเราะของข้าเองนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ไอนาร์: เพื่อนยากผู้รักสัตว์ของข้า เขามันเจ๋งจริงๆ ยิงก็แม่น หัวเราะเก่งอีกด้วย เขาชอบฉีกทึ้งสัตว์แล้วเอาเครื่องในแปลกๆ มาให้ข้า ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าข้าเกลียดเขามาก่อน! ข้าไม่รู้นะว่ามีอะไรเปลี่ยนไป แต่ในเมื่อเราลงเรือลำเดียวกันหมด มันก็ไม่เลวนักเลยนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เฮเลน่า: เธอฉลาดพอที่จะรู้ว่าพวกการ์ดดำเป็นพวกที่ไม่ดี... แต่เธอก็ไปร่วมกับพวกเขาแต่แรก แต่เราก็เคยตัดสินใจผิดพลาดกันทุกคนแหละ เหะ? การตัดสินใจออกจากกลุ่มนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย พวกมันไม่ใช่พวกที่ให้อภัยนักเลยนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เฮเลน่า: เฮเลน่าเป็นคนดีนะ ถึงแม้ว่าศีลธรรมของเธอจะบิดเบี้ยวไปนิดหน่อย แต่มันก็เป็นผลจากโอริอาทนั่นแหละ เราต่างก็รู้กันดีเกินไป เธอมีหัวดีเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ฉลาดเท่ากับข้าในเรื่องก้อนหิน แต่ใครจะฉลาดเท่าข้าล่ะ เหะ?นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เฮเลน่า: ข้าคิดมาคลอดว่าข้าควรจับตาแม่สาวนั่น เธอดูจนตรอกที่จะซ่อนตัว ลองถามตัวเองดูสิว่าอะไรเป็นเหตุ... เธอบอกว่าเธอกังวลเรื่องพวกการ์ดดำ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะจริงขนาดไหน เหะ?นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เฮเลน่า: เธอบอกว่าเธอยังกำลังหลบหนีพวกการ์ดดำอยู่ แต่... เราจะรู้ได้ยังไงว่าเธอภักดีกับฝั่งไหน? เราน่าจะแกะหัวเธอมาดูได้ว่าสมองเธอคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่เหมือนเธอจะเป็นนักสู้ ส่วนข้าก็ไม่ใช่นักสู้เอาเสียเลย ข้าจะจับตาดูเธอเอาไว้เฉยๆ แล้วกันนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เฮเลน่า: เฮเลน่า... เฉลียวฉลาด ใจดี สุภาพ... ข้าว่าเหมือนจะดีจนเกินเหตุนะ ข้าว่ามันดีจนเกินเหตุไปจริงๆ มันต้องมีแผนร้ายแน่ๆ... โอ้ มันยังไม่ได้ทำอะไรที่...ไม่เหมาะสม...หรอกนะ แต่มันจะเปิดเผยไต๋ไปทำไมล่ะ เหะ? ไม่ มันกำลังรอเวลาอยู่ ข้าเองก็รอเวลาเหมือนกัน มาดูกันเถอะว่าใครจะอยู่ได้นานกว่ากัน มารอดูกันเถอะ เหะ?นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก จุน: หน้ากากทำให้ข้าหวาดระแวงมาแต่ไหนแต่ไร คงเป็นเพราะข้าเคยเผชิญกับเทมพลาร์อย่างไม่น่ายินดีนัก แต่เธอก็คงไม่เลวนัก อย่าไปลองดีกับเธอล่ะ กระบี่เธอเล่มเบ้อเร่อเชียวนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก จุน: เธอปกปิดหน้าตัวเอง แต่ดวงตาเธอบ่งบอกทุกสิ่งที่เจ้าควรรู้นี่นา เป็นคนช่างสงสัย ช่างคิด เป็นคนที่จ้องตาเจ้าแต่ก็เห็นการเคลื่อนไหวอย่างอื่นทั้งหมดในเวลาเดียวกัน อันตรายนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก จุน: คือเธอเป็นแบบนี้... เธอมัน... ปกติเหลือเกิน เหมือนกับเธอพยายามทำตัวกลืนกับคนอื่นเสียจนเด่นขึ้นมา ข้าว่ามีพิรุธนะ... มีพิรุธมากๆ แต่ข้าไม่กล้าบอกเธอตรงๆ หรอก ข้าเคยเห็นแล้วว่าเธอทำอะไรกับมีดในมือได้บ้างนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก จุน: อู้ เธอวางแผนอะไรอยู่แน่ๆ ไม่มีผู้บริสุทธิ์คนไหนมีดวงตาว่องไวเล็กๆ กับกระบี่ใหญ่ๆ แน่ๆ ข้าไม่รู้ว่าเธอปิดบังอะไรเอาไว้ แต่เดี๋ยวอีกไม่นานก็คงรู้นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก จุน: นังนั่นเป็นเด็กสาวที่นิสัยดีจริงๆ นะ ดีจริงๆ ดีเกินไป ไม่ว่ามันตั้งใจแสดงเพื่อปิดบังเรื่องอะไร มันย่อมเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เอ็กไซล์ เรื่องใหญ่ เรื่องหนักด้วย เป็นความลับขนาดเท่าหินยักษ์ที่พร้อมจะล่มเรือเล็กๆ ของเราได้ทุกเมื่อนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ซานะ: ซานะเป็นคนแจ่มแจ้ง ไม่คิดว่ามีใครฉลาดไปกว่าเธอแล้ว และในเมื่อข้าอยูในที่ที่เต็มไปด้วยความมืดมิดของจริง ข้าก็พอรู้เกี่ยวกับความแจ่มแจ้งอยู่บ้าง พอข้าถึงทางตันเรื่องเครื่องจักรของข้า ข้าก็ไปคุยกับเธอนั่นแหละนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ซานะ: โลกใบนี้มีคนน่าสรรเสริญไม่มากนัก แต่ซานะก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอเอาชนะพวกเทมพลาร์ด้วยสติปัญญา สร้างเครื่องอันงดงาม และยังไม่เคยพยายามฆ่าใครต่อหน้าเธอเลย เป็นเพชรเม็ดงามที่หายากเสียจริงนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ซานะ: ซานะช่างเฉลียวฉลาดและทะเยอทะยาน แถมมีจิตใจดีอีกด้วย! ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในยุคสมัยนี้ แต่ว่า... ข้าอดรู้สึกไม่ได้ว่ามีเรื่องที่เธอไม่ได้บอกข้า เรื่องที่มัน... สำคัญนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ซานะ: ซานะแอบปิดบังอะไรบางอย่างเอาไว้ เธอเฉลียวฉลาดมาก มันจึงสังเกตไม่ได้ง่ายๆ แต่ข้าเคยเห็นเธอ... กระวนกระวาย จะมีเรื่องอะไรให้กระวนกระวายอีกเล่า? เรื่องที่เธอไม่ได้บอกเราแน่ๆ เธอโชคดีนักที่ข้าชอบเธอ...นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ซานะ: ชู่ ข้าไม่อยากให้เธอได้ยิน ข้าว่าเธอพบอะไรที่เธอไม่อยากให้พวกเราที่เหลือได้รู้ รู้ไหมว่าข้าคิดว่าเป็นอะไร? ... ใช่แล้วเอ็กไซล์... มันเป็นเหมืองอีกเหมือง เป็นคลังอะซูไรต์ลับอีกแห่ง และเธอก็เก็บมันไว้เป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่ข้าจะไม่ปากโป้งเรื่องความลับของเธอแน่ๆ! ...เอ่อ... เราละมั้งแม่ชีแคสเซีย อุปกรณ์: ในช่วงเวลาของข้าข้าได้สร้างเครื่องจักรกลเล็กๆ อันสวยงามมากมาย ไหนดูสิ... มีอันนึงที่ข้าสร้างมาเพื่อปอกเปลือกผลไม้ อันนั้นข้าเรียกมันว่า เครื่องถลก
เตาแบบพกพาพอสร้างออกมาแล้วมันดูไม่เหมือนเตา แต่เหมือนเครื่องปล่อยลูกไฟมากกว่า แต่ก็เป็นที่นิยมอยู่นะ
และแน่นอน ข้าได้ประกอบป้อมปืนขึ้นมาใช้ป้องกัน เครื่องดูด-ชำระร้าง-แบบพกพา เป็นอันที่ข้าค่อนข้างภูมิใจ มันใช้พลังจากของเหลวมีพิษที่ไหลเวียนอยู่ในเส้นใยของเชื้อรา มันออกมาแข็งแรงเกินคาด แถมปลอดภัยด้วย! ค่อนข้างปลอดภัยเลย เกือบจะไม่ตายสักคนเลยล่ะ เว้นแต่คนที่ข้าอยากให้ตายแม่ชีแคสเซีย การเนรเทศ: ใช่ ถูก ข้าเองก็เป็นเอ็กไซล์เหมือนเจ้า ข้าไปเตะตาเทมพลาร์ระดับสูงเข้าเมื่อหลายปีก่อน ข้ามีความสนใจศาสตร์เชิงกลแล้วหมอนั่นก็ต้องการคนอย่างข้าเพื่อทำโครงการลับสุดๆ ของมัน มันหาวิธีเอาพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในมณีบารมีด้วยวิธีการที่ข้าไม่แน่ใจว่าเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้าหรือเปล่า แต่ข้าก็ไม่ได้ปฏิเสธมันอย่างโจ่งแจ้ง ข้าแค่... ตีความคำสั่งต่างออกไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง เครื่องกลที่ข้าสร้างทั้งเฉียบและทรงพลัง และก็โคตรไร้ประโยชน์สำหรับหมอนั่น ข้าน่าจะมีเก็บไว้อยู่บางชิ้นนะ
แต่น่าเสียดาย อย่างที่เจ้ารู้ ไม่มีอะไรเล็ดลอดโดมินัสไปได้ ข้าถูกเนรเทศปิดปาก แล้วมันก็หาอีกะหรี่ที่ไหนมาแทนข้าก็ไม่รู้อย่างไวเลย
ห๊ะ? ก็นังนั่นเป็น{กะหรี่}จริงๆ นี่หว่าแม่ชีแคสเซีย เชื้อรา: ข้าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ก้อนเนื้อมันไม่มีท่าทีแสดงให้เห็นถึงสติปัญญา ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ทันทีที่เข็มของเครื่องดูดมันแทงไปโดนเนื้อของมัน อสุรกายหลากหลายขนาดก็ผุดออกมาจากไมซีเลียม แถมพวกมันยังไม่ออกห่างด้วย
ของเหลวที่อยู่ในก้อนเนื้อมันน่าจะเป็นกุญแจในการควบคุมจิตใจของอสุรกายเหล่านี้... และหวังว่ามันจะเป็นกุญแจปกป้องเราจากพลังของมันเองด้วย มีการแข่งขันมากมายเพื่อควบคุมจิตใจของพวกเรา แต่นั่นมันเป็นส่วนของเทพแล้วแม่ชีแคสเซีย แผนที่ติดเชื้อ: ข้าเริ่มเชื่อว่าไอ้ก้อนเนื้อเนี่ยมันจะต้องมีแกนกลางบางอย่าง... จะบอกว่าสมองก็ยังไม่ค่อยถูก แต่ก็ไม่ผิดไปมาก
ก้อนเนื้อก้อนใหญ่พวกนี้ "แผนที่ไบล์ท" ที่เจ้าพบ มันจะพาเราไปหาต้นตอของเชื้อราร้าย
เมื่อไม่นานมานี้ ข้าเชื่อว่ามันเป็นอาการที่มาจากการล่มสลายของเวร์แคลส์ท ก้อนเนื้อร้ายมันกินซากศพเน่าเปื่อย ถ้าพูดถึงตอนนี้? ข้ามั่นใจว่ามันเป็นปรสิตแน่ๆ เวร์แคลส์ทยังไม่ตาย แต่กำลังจะตาย อ่อนแอลงตามประวัติศาสตร์ป่าเถื่อนของมัน และกำลังถูกโจมตีและปกคลุมไปด้วยโรคร้ายนี้
พระเจ้าได้ให้ชิ้นส่วนปริศนาทุกชิ้นกับเราแล้ว สิ่งที่เราต้องทำก็คือประกอบมันเข้าด้วยกัน ข้าว่าเจ้าจะเก่งเรื่องแก้ปริศนานะแม่ชีแคสเซีย แนะนำตัว: หืม? ยังมีผู้ถูกเนรเทศจากโอริอาทอีกเหรอ? ดูจากปัญหาที่เจออยู่เนี่ย ข้าก็หวังว่าเจ้าพวกนั้นจะส่งคนที่มีประโยชน์มากกว่านี้... สักหน่อยมา อนิจจา เรามีเอ็กไซล์ที่ไร้ประโยชน์ทยอยปลิวมาราวกับสปอร์ในสายลมเลย
ชื่อแคสเซียนะ ยินดีๆแม่ชีแคสเซีย ตัวแทน: เจ้าน่าจะรู้จักนังนั่นจากชื่อที่เทมพลาร์ระดับสูงโดมินัสตั้งให้ว่าพายตี้ หรือ กะหรี่+กลายเป็น+นักเวทมณี+กลายเป็น+นักประดิษฐ์ หรืออย่างน้อยหล่อนก็อยากจะให้เป็นอย่างนั้น ข้าเห็นงานที่นังนั่นทำละ ข้าไม่ปลื้ม ถ้าดูจากทรัพยากรที่มีให้หล่อนใช้
ไม่ใช่ว่าข้าอิจฉาหรอกนะ ไม่เลย เหมาะกับนังนั่นแล้วล่ะ แต่จะบอกให้ว่านักประดิษฐ์จะมีนิสัยชอบโดนสิ่งประดิษฐ์ของตัวเองแว้งกัด และดูเหมือนว่าพายตี้จะชอบสร้างอะไรที่มีฟันเยอะๆ ด้วยสิแม่ชีแคสเซีย เทมพลาร์: เจ้าได้ยินข้าสวดบทเพลงของเทมพลาร์จริงๆ นั่นแหละ มันเป็นสิ่งที่ข้าทำจนชินจนติดตัวข้ามาตลอด ไม่ใช่แค่ไอ้ที่ข้าใส่เท่านั้น แม้ว่าพวกเทมพลาร์จะมี... 'ข้อเสีย' อยู่บ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลย เพราะว่าพวกมันทำงานให้พระเจ้า และอินโนเซนทรงโปรด บทสวดพวกมันนี่ติดหูยิ่งกว่าอะไร เวลาข้าร้องมันช่วยให้ข้ารวบรวมสมาธิได้แม่ชีแคสเซีย น้ำมันเจิม: ข้าเห็นแล้วว่าเจ้าไปเก็บน้ำมันมาได้ด้วยมือเหนียวๆ ของเจ้า แล้วเจ้าจะเอามันไปทำอะไรหรือ? เออ ไม่ต้องตอบหรอก ข้าไม่แคร์ เพราะข้ามีวิธีใช้ที่ดีกว่าอะไรไร้สาระที่เจ้าวางแผนไว้แน่
หาน้ำมันมาให้ข้าสองสามหลอด แล้วข้าจะเจิมสร้อยแหวนตามจารีตของนักบวช พรจากข้าจะปลดปล่อยพลังแฝงในตัวเจ้าที่เจ้าเองก็ไม่รู้ออกมา พระเจ้าจะช่วยผู้ที่มีจิตใจช่วยเหลือนี่นาแม่ชีแคสเซีย พายตี้และโดมินัส: มันอาจจะฟังดูแปลกนะ แต่ข้าก็เสียใจนิดหน่อย ข้ารู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าพวกนั้นไม่ใช่คนดี แต่พวกมันก็ยังเป็นคน ข้ารู้จักโดมินัสดี เราเคยทำงานร่วมกัน กินข้าวร่วมกัน มีบางครั้งที่ข้าเรียกเขาว่าเพื่อนได้ และพายตี้ตอนนั้นก็กำลังสู้กับปัญหาของตนเอง
ข้าหวังว่าพระองค์จะประทานอภัยให้แก่วิญญาณพวกเขา... และวิญญาณข้าแม่ชีแคสเซีย หัวใจของเชื้อร้าย: เจ้าทำได้ดีแล้ว สาวกตัวน้อยของข้า เบื้องหน้าเราคือช่วงเวลาแห่งความจริง มองอะไรวะ? ข้าแค่เปรียบเปรย ไว้เราจัดการเรื่องนี้กันทีหลัง
ก่อนที่เราจะจู่โจมหัวใจของไบล์ท เช็คดูให้แน่ใจว่าเจ้าพร้อมกับสิ่งที่รอคอยพวกเราอยู่ ถ้าเจ้ามาตายเอาตอนนี้มันจะทำให้ลำบากมากๆ ข้าอาจจะคิดถึงเจ้าเลยด้วยซ้ำ
เจ้าน่าจะวอร์มอัพก่อนนะ เพราะว่าเจ้าจะต้องได้วิ่งเยอะเลยแม่ชีแคสเซีย อินโนเซน: อินโนเซนที่เจ้าสังหารไปมันไม่ใช่พระเจ้าที่ข้ารู้จัก พระเจ้าของข้าทั้งเสียสละและสมถะ จริงอยู่ว่าเขาอาจจะชอบเผาคนบาปไปบ้าง แต่มีใครบ้างล่ะที่ไม่ชอบ?
เจ้ารอดูนะ เอ็กไซล์ ความนิรันดร์จะพิสูจน์ว่าข้าถูกอีกอน คาเซอริอุส คิรัค: เจ้ามีที่ทำการที่น่าดูไม่เบาเลยนะ! คิรัคตัวจริงดูแก่กว่าที่คิดเยอะ... ข้าขอบอกเลย ข้าไม่สนใจหรอกว่าเขาจะวางตัวยังไง ดูอารมณ์เสีย บูดบึ้งขุ่นเคืองไม่น้อย ดู... น่าเบื่อสิ้นดี
ยังไงก็ตาม เรามาใช้พิกัดพวกนี้กันเลยไหม?ไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ แนะนำตัว: แววตาของเจ้า...ข้ารู้ได้เลย เป็นผู้รอดชีวิตเช่นเดียวกับไอนาร์ผู้นี้
นั่นคือนามของข้า เจ้าผู้พลัดถิ่น ไอนาร์ในภาษาข้ามันแปลว่า 'นักรบเดียวดาย' นั่นเป็นสิ่งที่ไอนาร์ เป็นมาหลายปี
แต่ตอนนี้มันอันตรายเกินกว่าจะสู้ลำพัง อันตรายเกินไปแม้แต่ไอนาร์ผู้แข็งแกร่ง โลกเราใกล้ถึงจุดจบแล้วเจ้าคนพลัดถิ่น ข้ามั่นใจเช่นนั้น เราผู้รอดชีวิตต้องเตรียมพร้อมรับจุดจบ และถ่วงเวลามันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
เราต้องการเสบียง อาวุธ ที่พัก อาหาร นั่นเป็นงานของเจ้าไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ เครเชียนน์ ผู้บุกเบิกเบื้องลึก: ไอนาร์มีพรสวรรค์มากมาย เจ้าจะได้รู้ ข้าเคยล่องเรือไปเวร์แคลส์ทตามลำพัง เป็นการเดินทางที่กล้าหาญและเสี่ยงอันตรายมาก เจ้าประทับใจไหม?
เรือข้าเล็กนิดเดียวและไม่เหมาะกับการเดินทางนี้สักเท่าไหร่ จากนั้นเรือข้าก็เกยตื้น... แต่มันไม่ได้เกยฝั่ง ช่างน่าสับสนยิ่งนัก มีแต่น้ำ แต่เรือข้าไปไหนไม่ได้ อาหารข้าสุดท้ายก็เน่าเสียหมด ข้าตกปลาเก่งนะ ไว้สักวันจะสอนเจ้า... มั้ง ข้าจับปลา ปู ปลาหมึกได้มากมาย ข้ากินอิ่ม แต่น้ำไม่มี มีแต่เหล้า เศษอาหารเหลือๆ ข้าก็เทลงทะเลไป
จากนั้น... เรือก็ขยับ ลอยตัวขึ้นมา ข้ามองไปทางท้ายเรือก็เจอกับปู ตัวใหญ่อลังการสีแดงสด ตัวนี่มีแต่เศษอาหารที่ข้าทิ้งไป นั่นน่ะคือ เครเชียนน์ ร่างจำแลงของเทพผู้บุกเบิก
ไอนาร์รู้ความลับของเครเชียนน์ว่ามันซ่อนลึกอยู่ภายในสัตว์ทะเล หาพวกมันให้เจอ แล้วเราจะได้พบกับเครเชียนน์อีกไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ ไอนาร์: เจ้าอยากรู้อดีตของไอนาร์หรือ? นั่นเป็นเรื่องของไอนาร์คนเดียว ไม่ใช่เรื่องของคนอื่นไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ ฟาร์รุล ผู้บุกเบิกที่ราบ: หลายปีก่อน ไอนาร์ท่องไปในทุ่งใกล้กับซาร์นเพื่อหาผู้รอดชีวิตที่คู่ควร แต่หาไม่เจอสักคน จากนั้นข้าก็หาน้ำไม่เจอ จากนั้นข้าก็หาที่พักไม่เจอ เป็นวินาทีบทเรียนของไอนาร์เลย
แดดร้อนระอุเหลือเกินจนไอนาร์เห็นเกลียวคลื่นสีแดงและขาว คมเขี้ยวแวบขึ้น นั่นละฟาร์รุล ผู้บุกเบิกที่ราบ ซึ่งเป็นร่างจำแลงของเทพผู้บุกเบิก ข้าไล่ตามมันไปจนมืด... ข้าตกลงไปในรูหมานรกและข้าได้ดื่มเลือดมันในคืนนั้น ได้รู้กันตอนนั้นละว่าข้าเกลียดเลือดหมานรกยังกะอะไร
และข้าก็ได้เรียนรู้ความลับของฟาร์รุลว่าอยู่ในเลือดของสุนัข แมวและสัตว์เลือดอุ่นอื่นๆ ฉะนั้นหาพวกนี้ให้เยอะๆ แล้วเราจะเจอฟาร์รุลไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ เฟนูมัส ผู้บุกเบิกราตรี: ไอนาร์เป็นนักสำรวจที่อาจหาญ เคล็ดลับน่ะหรือ? ข้าไม่คิดอะไรเลย วันหนึ่งข้าไม่ได้คิดอะไรตอนเข้าไปในถ้ำ มันช่างกล้าหาญ แต่แล้วข้าก็หลงทาง มันมืดมาก ข้าไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เลยไม่ได้เอาคบเพลิงไปด้วย
ข้าคลำทางเดินไปจนกระทั่งเจอแสง... จากหนึ่งกลายเป็นสอง แล้วจากนั้นก็เพียบ! แสงมากมาย! ข้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆ แสงก็สว่างมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น... ข้าก็ลื่นตกลงไป ไกลมาก ไอนาร์นึกว่าเขาจะตายซะแล้ว แต่ข้าก็มาติดกับ... ใยแมงมุม แสงสว่างมันขยับไหวไปมา มีพวกแมลงเต็มไปหมด และตรงหน้าพวกมันคือเงามืดของแมงมุมตัวหนึ่ง เฟนูมัส... ร่างจำแลงของเทพผู้บุกเบิก
ใยของเธอแข็งแรงมาก แต่คมดาบของไอนาร์แข็งแรงกว่า ข้าตัดใยออกมาได้และร่วงลงไปในแม่น้ำข้างล่าง แล้วมาเกยฝั่งอีกที ผจญภัยได้สนุกจริงๆ
เส้นทางไปหาเฟนูมัสอยู่ในเลือดแมลงทั้งหลาย แมงมุม แมลง ราชินีซากศพ จับมันมา แล้วเฟนูมัสจะตามมาเองไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ ทวยเทพผู้บุกเบิก: พวกเขาเป็นผู้รอดชีวิตพวกแรก เหล่าเทพผู้บุกเบิกแสดงให้ผู้คนของข้าเห็นว่าต้องอยู่รอดให้นานกว่าคนอื่นถึงจะชนะ พวกเขาทิ้งโลกนี้ไปเมื่อนานมาแล้วเพื่อหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ แต่พวกเทพจะกลับมา และหากเหล่าเทพกลับมา ข้าจะไปร่วมกับพวกเขาที่สวนอันยิ่งใหญ๋ และเจ้าจะไปกับไอนาร์ด้วยใช่ไหม? ใช่ไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ สวนสัตว์: เจ้าคงประหลาดใจว่าข้าไม่เป็นที่นิยมนัก คนอื่นๆ ที่นี่เป็นพวกเขลา ไม่เห็นจุดจบกำลังใกล้เข้ามา พวกนั้นไม่ใช่ผู้รอดชีวิตเหมือนข้า....หรือเจ้า
ก่อนเราพบกัน ข้าเก็บพวกสัตว์ร้ายไว้ในค่ายพัก พวกนั้นเข้าไปกัดกินธัญพืช จากนั้นก็เนื้อ พวกนั้นไม่เลือกที่กินเหมือนไอนาร์ ข้ายังได้รู้อีกว่าพวกโรอ์ย่อยเนื้อพวกกันเองไม่ค่อยได้
ข้าก็เลยย้ายพวกมันไปที่ใหม่ สวนสัตว์ ไกลมาก เป็นสถานที่ลับ ที่ที่เราจะเริ่มพิธีบูชาเหล่าเทพผู้บุกเบิก ข้าสร้างแท่นบูชาโลหิตเตรียมไว้แล้ว
เจ้าอยากเห็นมันรึ? บอกไอนาร์ได้ จะพาเจ้าไปไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ ซาคาวอล ผู้บุกเบิกนภา: ตอนหน้าหนาว ไอนาร์ตั้งค่ายที่พักอยู่บนเขา ข้ามีขนสัตว์มากมายให้ตัวอุ่นในยามหนาว... ข้าไม่ได้เอาติดตัวมาแต่แรกหรอก แต่ข้ามีของเหลวจากโรอ์อยู่ ตอนที่จิบน้ำอุ่นนี่ ไอนาร์ได้เห็นนิมิต ตะกวด สีแดงสดพร้อมขนเต็มตัว เฝ้ามองจากในเงามืด
ร่างจำแลงของพวกเทพผู้บุกเบิกเหมือนเป็นการทดสอบ นั่นน่ะคือซาคาวอล ผู้บุกเบิกนภา ของเหลวในถ้วยมันปั่นป่วนอีกรอบ นิมิตอีกชุดก็แวบขึ้นมาในเลือดของเหล่านกและสัตว์เลื้อยคลาน ข้าโชคดีที่มีน้ำนั่นเยอะคืนนั้น ไม่อย่างนั้นความลับคงปิดตายตลอดกาล
หานกและสัตว์เลื้อยคลานสิเจ้าคนพลัดถิ่น เส้นทางสู่ผู้บุกเบิกนภาอยู่ในเลือดของพวกมันไอนาร์ มาสเตอร์แห่งสรรพสัตว์ การซื้อขาย: สัตว์ทุกตัวไม่ได้เท่ากันหมด เจ้าผู้รอดชีวิต พวกเทพผู้บุกเบิกชอบสัตว์ที่จับมาได้ หรือเอาไปบูชาไม่เท่ากันหรอก สัตว์บางตัวก็ไม่ควรค่านำมาบูชายัญด้วยซ้ำไป!
อย่าห่วงเลย ไอนาร์ใส่คาถาเลือดที่ทรงพลังใส่ลูกกลมนี่ไว้แล้ว เจ้าจะใช้ Bestiary Orb กับสัตว์ไหนก็ได้ในสวนสัตว์ และจะขังมันไว้ในลูกนี่ จากนั้นเจ้าจะทำอะไรกับมันก็ได้ เอาให้หนุ่มหล่ออย่างไอนาร์ก็ได้นะ เจ้าอาจจะไม่รู้ แต่หน้าจริงใต้หน้ากากนี่ก็หล่อเหลาใช่เล่น
หาก Bestiary Orb มีสัตว์อยู่ข้างใน เจ้าจะใช้มันอีกรอบเพื่อปล่อยสัตว์ออกมาในสวนสัตว์ ได้ แต่ระวังล่ะ เพราะ Orb มันจะแตกฟาวทัส ที่ซ่อน: นี่ไม่ใช่ที่พักพิงที่ข้าเคยอยู่อย่างสบายเนื้อสบายตัวนัก แต่มันก็พอได้ เรามาที่นี่เพื่อทำงานนี่นา เรื่องอื่นไม่สำคัญเฮเลน่า การคราฟท์: ข้าได้นำเครื่องแปรธาตุมาจากโถงแห่งบาป เพราะข้าเชื่อว่าข้าสามารถดัดแปลงมันเพื่อใช้เพิ่มพลังให้เครื่องสวมใส่ได้ มันอาจจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพลังมืดที่เราไม่เข้าใจ แต่เราคงต้องยอมเสี่ยง เวร์แคลส์ทเป็นสถานที่ที่อันตราย และเราจะไปไม่ถึงไหนถ้ามัวแต่ระวัง
ตราบใดที่เราทำมันตามหลักวิทยาศาสตร์ และจัดการอย่างมีหลักเกณฑ์ เราน่าจะสามารถคราฟท์ของสวมใส่ตามที่เราต้องการได้เฮเลน่า โต๊ะคราฟท์: ข้าคงหวังให้มันดีกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ บอกไว้ก่อนว่าเครื่องมือนี้มันต้องใช้น้ำยาพิเศษเพื่อทำงาน เพราะงั้นไม่ใช่ว่ามันจะทำทุกอย่างได้ง่ายๆเฮเลน่า โต๊ะคราฟท์: เอาล่ะ ข้าถือวิสาสะลองทดสอบไปหลายอย่างแล้วละ เครื่องแปรธาตุนี้สามารถทำการเปลี่ยนแปลงทางเวทบางอย่างได้อย่างปลอดภัยทุกครั้ง ลองเสริมพลังให้กับของสวมใส่เจ้าดูสิ ดูสิว่าผลมันจะตรงตามที่ข้าคิดไหมเฮเลน่า การศึกษา: สมัยอยู่โอริอาทข้าไม่ใช่เด็กเก่ง แต่ข้าก็ภูมิใจในตัวเองที่สามารถทำเรื่องเล็กๆ สำเร็จได้มากมายจากวิทยาศาสตร์ที่เขายอมให้ทำเพียงหยิบมืออย่างเคร่งครัด ข้าถนัดในโบราณคดี ซึ่งโดมินัสและพวกของมันสนใจวัตถุโบราณเป็นอย่างมาก และมัน... มันบอกว่าข้าจำเป็น บอกว่าข้าสำคัญ เพราะข้าสามารถตอบได้ว่าวัตถุนี้เป็นของวาล์หรือไม่โดยแค่จับตามลวดลายที่เลือนรางของมันเท่านั้น
ข้าอาจจะอวดดีไปหน่อย เมื่อกองพันไม้มะเกลือเปิดตำแหน่งนักโบราณคดีเพื่อเดินทางไปสำรวจเวร์แคลส์ทและไม่มีใครอาสา ข้าคิดว่าเพื่อนร่วมงานของข้ามันแค่กลัวความอันตรายของการเดินทางข้ามทวีปเท่านั้น
ไม่ พวกนั้นมันรู้ พวกมันพูดโจ่งแจ้งไม่ได้ แต่พวกมันรู้ ข้าไม่รู้ว่าข้ามาร่วมกับสังคมแบบไหนจนกระทั่งข้าได้เห็นความทะยานอยากของพายตี้ ข้าศึกษาเกี่ยวกับวาล์ ข้ารู้ดีว่าพวกมันล่มสลายยังไง อย่างน้อยก็ในมุมมองที่บิดเบือนของพวกเทมพลาร์ การเข่นฆ่าท่วมมหาสมุทรของพายตี้... พวกวาล์เรียกความโอหังนี่ว่ายอดแห่งการสังเวย ส่วนพวกจักรวรรดินิรันดร์เรียกมันว่ากบฏพิสุทธิ์และพวกเราเรียกมันว่าวิหารลูนาริส
และข้าไม่รู้อะไรเลย เอ็กไซล์ ไม่รู้อะไรเลย
รู้แต่ว่ายังไงเราก็จะทำผิดพลาดซ้ำเหมือนกับในอดีต ถ้าเราไม่เรียนรู้มันด้วยตัวเองเฮเลน่า อัลวา: ในเมื่อเธอมีหนังสือเกี่ยวกับมนต์มณีเลือดวาล์แล้วล่ะก็ อัลวาได้เข้าถึงพลังที่ผู้รอบรู้ทุกคนได้แต่ฝันมาหลายศตวรรษ การย้อนเวลานั้นมันดูบ้าจริงๆ นั่นแหละ แต่ข้าก็เห็นเธอย้อนเวลาต่อหน้าข้าเอง
มันเป็นทั้งคุณและโทษที่เธอเลือกที่จะย้อนเวลาเพื่อตัวเธอเอง มันก็จริงที่เราควรทำอะไรมากกว่านี้ถ้าเราสามารถย้อนเวลาได้แบบเธอ แต่จุดมุ่งหมายแคบๆ ของเธอก็ยังทำให้มิติเวลาเสถียรด้วย ข้านึกไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา อย่างเช่น ถ้าเราย้อนเวลาไปฆ่ามาลาไคเพื่อไม่ให้เกิดวันมหาภัยพิบัติน่ะ
เราจะไม่เกิดขึ้นมาแต่แรกเลยไหม? หรือไม่เราอาจจะสร้างเวร์แคลส์ทใหม่ที่ไม่เคยพบวันหายนะเลยก็เป็นได้? ถ้าเรามัวแต่คิดเรื่องนี้คงเป็นบ้าตายก่อนกระมัง...เฮเลน่า ไอนาร์: ข้ายอมรับว่าครั้งแรกที่เจอเขา ข้าดูถูกเขาไป เพราะเขาเป็นชาวเอโซไมต์ที่ยากจนที่สุด ซึ่งกลุ่มชนนี้ก็ถูกหยามที่สุดในโลกอยู่แล้ว ไอนาร์ทำให้ข้ารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ช่วยด้านพละกำลังได้อย่างเดียวแค่นั้นแหละ
แต่ข้าคิดผิดไปจริงๆ ถ้าจะมีคนที่เข้าใจความมืดที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตของเวร์แคลส์ทแล้วล่ะก็ คงจะมีแต่เจ้าตัวนั่นแหละ ข้ากำลังค้นหาต้นตอของเรื่องทั้งหมดทั้งมวลนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นสมการหรือแบบแผนก็ตาม แต่พฤติกรรมเขากลับเลียนแบบกระบวนการเชิงประจักษ์โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว การศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ที่มีมลทิน และพลังจากเลือดของพวกมันนั้น เขาทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาที่เรามีมันคลี่คลายยิ่งกว่าที่ข้าทำได้เองเสียอีก
วันหนึ่ง เขาอาจจะแก้ปัญหาอาการของพลังมลทินได้ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจต้นตอของปัญหาด้วยซ้ำ อย่าเข้าใจผิดนะ เอ็กไซล์ มัน... น่าประทับใจมาก เพราะมันคือการแก้ปัญหาจักรวาลด้วยการใช้กำลังอย่างมนุษยนิยมเฮเลน่า จุน: จุนเป็นคนที่เก็บตัว ดูออกทันทีว่าเธอไม่ชินกับการไว้ใจคนแปลกหน้า จากที่สังเกตดูเธอ ข้าคิดว่าเธอรับมือกับการสูญเสีย{อังคะรา}ของเธอด้วยการอุทิศตนให้กับหน้าที่ของเธออย่างสุดความสามารถ มันเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่ก็อันตราย ดูแลเธอด้วยล่ะ เอ็กไซล์เฮเลน่า นิโค้: เขามีเจตนาดีนะ นั่นเป็นสิ่งแรกที่ข้าสามารถพูดได้ทันที ข้าไม่เคยเห็นความมุ่งร้ายจากการกระทำของเขาเลย แต่คำพูดเขาบางครั้งก็ออกทะเล และเสียงหัวเราะของเขาก็ดี้ด้าแปลกๆ ข้าเกรงว่าการที่เขาอยู่กับวอลทาซิกซัลไฟต์มากไปทำให้สมองเขาเป็นพิษน่ะ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เขาก็น่าจะเป็นคนที่เหมาะที่สุดในเวร์แคลส์ทนี้แล้วแหละ ถ้าเราพูดถึงความลึกลับใต้โลกนั่นน่ะ
และใต้โลกนั่นก็คือสถานที่ที่ประวัติศาสตร์หลายพันปีได้จมอยู่เฮเลน่า ภาคีแห่งจินน์: ภาคีแห่งจินน์มีอยู่จริงหรอ? เจ้าต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่ามันมีความหมายกับนักโบราณคดีอย่างข้าแค่ไหน ข้าเคยเป็นตำแหน่งลูกมื ใช่ แต่เพื่อนร่วมงานของข้าก็ไม่ฟังข้าถึงขั้นที่เหลวไหลสิ้นดี ข้ามั่นใจว่าการหายไปของวัตถุโบราณต่างๆ มันต้องมีแบบแผนแน่ๆ ข้าเชื่อถึงขนาดที่ว่าถ้าเพื่อนข้าจะเดินทางไปสำรวจอะไรสักที่ และสิ่งที่จะไปสำรวจเป็นวัตถุโบราณที่มีชื่อตามตำนาน ข้ากล้าพนันด้วยเงินเดือนทั้งเดือนข้าเลยว่าพวกเขาจะไม่เจอวัตถุดังกล่าวในที่ที่มันควรอยู่แน่
ข้าไม่เคยแพ้พนันเลยสักครั้ง และตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าที่ข้าคิดมันถูก แม้ว่าก่อนหน้านี้ข้าจะไม่รู้ชื่อขององค์กรลับที่คอยปกป้องวัตถุสำคัญที่ข้าสร้างทฤษฎีขึ้นมานี้ก็ตาม ภาคีแห่งจินน์ได้เก็บรวบรวมวัตถุทรงอานุภาพไว้เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งมันดีแล้วที่ทำแบบนั้น
เพราะพลังแบบนั้นถ้าตกอยู่ในมือคนอย่างโดมินัสทุกอย่างคงพินาศแน่เฮเลน่า โอริอาท: พวกการ์ดดำหลายคนยังคงมีชีวิตรอดและกระจัดกระจายกันอยู่ในเวร์แคลส์ท แต่องค์กรของมันคงหลังหักจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่โอริอาท ข้าไม่อยากจะไปเจอกลุ่มของพวกมันโดยบังเอิญหรอก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่พวกมันเริ่มหิวโหยและหมดหวัง แต่ข้าเชื่อว่าพวกมันคงเลิกออกล่าพวกเราแล้ว นั่นทำให้เราพอได้พักหายใจขึ้นมาบ้าง จะได้จัดการกับปัญหาใหม่ต่อเฮเลน่า ความฝันของเฮเลน่า: ยามหลับ ยามฝัน ข้ารู้สึกว่าข้ากำลังจะบรรลุอยู่รอมร่อ มือข้างหนึ่งข้าถือลูกแก้วสีม่วงของนาวาลี และอีกข้างหนึ่งข้ากรีดเลือดเพื่อทำการย้อนเวลาให้กับอัลวา ในความฝันข้าเหมือนเป็นตาชั่ง คอยถ่วงสมดุลทั้งสองอย่างไว้
ไม่ มันทั้งคู่คือสิ่งเดียวกัน และข้าถูกจับอยู่ในวังวนชั่วนิรันดร์ของพวกเธอ
ขณะที่ข้าอยู่ในวังวนนั่น ข้างบนมีเสียงตะโกน เสียงกรีดร้อง เสียงกรงเล็บ และเสียงกาเป็นใยชีวิตเหมือนที่ไอนาร์ได้บอกข้า
ข้างล่างมีความเงียบ แมกมา เยือกแข็ง และไขว่คว้า ที่ซึ่งฝันร้ายใต้โลกหลับใหลอยู่อย่างที่นิโค้ได้เผยให้เห็นจากการทำเหมืองของเขา
ข้าคิดว่าข้าอยู่ตรงกลางของการรักษาสมดุลแสนประหลาด แต่ไม่เลย เอ็กไซล์ มันไม่ใช่ข้า เพราะตอนข้าฝัน ซานะอยู่ที่นั่น ข้างหน้า สร้างความฝันนี้ ความเหนือจริงนี้ เมื่อเธออยู่ข้างหน้า ข้าก็เห็นว่าข้าเป็นผู้ที่อยู่ข้างหลัง ที่สร้างสิ่งที่เป็นกายภาพ สิ่งที่เป็นจริง มันไม่ใช่ข้าที่อยู่ตรงกลาง มันเป็นเจ้า
เจ้าเข้าใจฝันของข้าไหม เอ็กไซล์? แม้มันจะไม่สำคัญอะไร แต่มันก็สะท้อนให้เห็นความจริง พวกเราแต่ละคนต่างอยู่ปลายแกนที่ไม่น่าเชื่ออยู่ และเจ้าเป็นคนรวบรวมพลังเหล่านี้ไว้
และเราก็ต่างเผชิญกับมรสุมนี้ไปด้วยกันเฮเลน่า ซานะ: ข้าเคยได้ยินชื่อซานะสมัยที่ข้าอยู่ที่โอริอาท ข้ายังเคยดูถูกเธอและคนอย่างเธอเช่นเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ที่ "ศาสนจักรยอมรับ" ตามที่โดมินัสต้องการ พอได้เห็นความจริง ข้าเลยได้เข้าใจว่าเธอเป็นผู้หญิงสายวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับข้า และทุ่มเทให้กับมันอย่างเต็มที่
ฝ่ายที่เธอกำลังเผชิญมันตั้งฉากกับความกังวลของชีวิตนี้ ข้าต้องห่วงเรื่องตรรกะและการเมืองของเวร์แคลส์ทก่อนเป็นอันดับแรก แต่ข้าก็ยอมรับว่าเธอได้ปกป้องพวกเราในวิธีของเธอเองเฮเลน่า ที่ซ่อนอื่น: ขณะที่เจ้าอยู่ข้างนอกนั่น คอยสังเกตหาที่ที่เหมาะจะทำเป็นที่ซ่อนด้วย พวกการ์ดดำจะไม่ยอมแพ้ และมันจะเข้ามาใกล้ที่นี่ในไม่ช้า ข้าต้องการที่ซ่อนสำรองพร้อมที่จะอพยพหากเราต้องรีบหลบหนีเฮเลน่า เครื่องแปรธาตุ: มาลาไคเป็นผู้มอบเครื่องแปรธาตุนี้ให้กับมาลิกาโรเอง มันทำให้ข้าอึดอัดเป็นอย่างมากเวลาคิดถึงความน่าสะพรึงกลัวที่เครื่องนี้สร้างขึ้น
แต่ข้าต้องเตือนตัวเองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโถงแห่งบาปนั้นไม่ใช่ความผิดของวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือให้มนุษย์เปลี่ยนแปลงโลก มันขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนว่าจะเลือกใช้พลังของมันทำดีหรือทำชั่ว
มาลิกาโรเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งร้ายๆ นั่น มาลาไคก็เช่นกัน เจ้ากับข้าจะร่วมกันใช้เครื่องนี้แก้ความเสียหายที่พวกมันก่อจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก หัวหน้าองค์กร: ในที่สุดก็เห็นภาพชัดเจน คาทาริน่าพบสิ่งประดิษฐ์โบราณที่สามารถบงการพลังชีวิตได้ตามใจอยาก เธอเสาะหาอำนาจ ไม่ใช่เพียงอำนาจเวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นอำนาจทางการเมืองอีกด้วย การทำให้คนเป็นอมตะได้เป็นเครื่องมือต่อรองชั้นดีจริงๆ
เวร์แคลสท์นั้นแตกแยก เกิดการแบ่งกลุ่มเล็กๆ น้อยๆ ท่ามกลางแผ่นดินขนาดมหาศาล แต่มันย่อมไม่เป็นเช่นนั้นไปตลอดกาล คาทาริน่ารู้เช่นนี้ เธอเลยเล่นเกมยาว รอเป็นราชินีอมตะ
ลูกน้องของเธอย่อมไม่กล้าขัดขวางเธอ เพราะเธอให้ความอมตะได้ และพรากมันไปได้เช่นเดียวกัน
เธอกำลังตั้งตนเป็นทรราช ยิ่งเราปล่อยให้เธอสะสมอำนาจ เธอก็ยิ่งถูกกำจัดได้ยากตามจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก อัลวา: ความโลภนองเลือดยิ่งกว่าความชั่วทั้งปวงรวมกัน และอัลวาเป็นคนที่โลภมากที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้พบ การที่เจ้าร่วมงานกับเธอทำให้ข้าเริ่มสงสัยในตัวเจ้านักจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก ไอนาร์: ใครที่มันคิดว่าโลกนี้กำลังมาถึงจุดจบต้องมีปัญหาแน่ๆ เจ้านั่นมันมีสำเนียงแปลก มันว่ามันมาจากโอริอาทนะ แต่ข้าว่าเจ้าไอนาร์มันต้องปิดบังอะไรมากกว่าหน้าตาของมันแน่
แต่... ข้ามีสิทธิ์พูดด้วยหรือ?จุน มาสเตอร์แห่งการผนึก เฮเลน่า: เฮเลน่ามองตัวเองแล้วเลือกที่จะหันหลังให้กับสิ่งที่เธอเคยถูกสอนมาให้เชื่อแม้จะกลัวตายด้วยก็ตาม นั่นทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่น่าชื่นชมนักจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก นิโค้: นิโค้เป็น... คนแปลกๆ ข้าว่าคงมีความเป็นคนดีฝังอยู่ในตัวของเขาที่ไหนซักแห่ง แต่เขาหลงทางอยู่ในความมืดในตัวเขาเอง และกำลังดิ้นรนปีนป่ายออกมาจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก ซานะ: กฎระเบียบของ{อังคะรา}ของข้าห้ามไม่ให้สตรีถูกบุรุษต้องกาย ไม่มีครอบครัว ไม่มีการเผยความลับ จึงไม่มีช่องโหว่ แต่ก็ไม่มีข้อใดห้ามสองหญิง... เมื่องานเราเสร็จ ข้าอยากจะผูกพันกับเธอมากขึ้น บางทีเราอาจจะรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมก็ได้จุน มาสเตอร์แห่งการผนึก คาทาริน่า: ในที่สุดเราก็ได้ชื่อแล้ว คาทาริน่า ข้ารู้จักนะ เธอเป็นหมอผีทรงพลังที่ใช้พรสวรรค์... ในทางที่ผิด ข้าไม่รู้หรอกว่าเธอเรียนรู้ที่จะชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นมาอย่างเที่ยงแท้ได้อย่างไร แต่... ข้ามีข้อสันนิษฐานอยู่ และข้ามีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าพลังที่กล้าแกร่งไม่ได้ได้มาฟรีๆ หรอก
ดูเหมือนเธอจะซื้อพลังมาด้วยวิธีที่ผิดมนุษย์
เราต้องสืบให้เจอว่าเธอซ่อนตัวอยู่ไหน มันเสี่ยงเกินไปที่จะยอมให้เธอดำเนินการต่อจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก หัวหน้าองค์กร: ในที่สุดก็เห็นภาพชัดเจน คาทาริน่าพบสิ่งประดิษฐ์โบราณที่สามารถบงการพลังชีวิตได้ตามใจอยาก เธอเสาะหาอำนาจ ไม่ใช่เพียงอำนาจเวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นอำนาจทางการเมืองอีกด้วย การทำให้คนเป็นอมตะได้เป็นเครื่องมือต่อรองชั้นดีจริงๆ
เวร์แคลสท์นั้นแตกแยก เกิดการแบ่งกลุ่มเล็กๆ น้อยๆ ท่ามกลางแผ่นดินขนาดมหาศาล แต่มันย่อมไม่เป็นเช่นนั้นไปตลอดกาล คาทาริน่ารู้เช่นนี้ เธอเลยเล่นเกมยาว รอเป็นราชินีอมตะ
ลูกน้องของเธอย่อมไม่กล้าขัดขวางเธอ เพราะเธอให้ความอมตะได้ และพรากมันไปได้เช่นเดียวกัน
มันมีเหตุผลที่ทำไมภาคีของข้าถึงเก็บซ่อนเขานี้ไว้นาน และเรากำลังเห็นมันเกิดขึ้นต่อหน้าเราจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก ยานัส เพแรนดัส: เจ้าน่าจะเคยได้ยินชื่อตระกูลเพแรนดัสที่โด่งดังแน่ๆ ข้าไม่สงสัยเลย มั่งคั่ง มีอำนาจ และเป็นผู้ที่ทำให้มาลาไคนำพาเวร์แคลส์ทสู่ความย่อยยับเมื่อหลายศตวรรษก่อน ซึ่งจักรพรรดิชิตัสคือผู้ที่โด่งดังที่สุดในตระกูล ถึงตอนนี้เราก็ยังเห็นร่องรอยสายเลือดชั่วของมันได้
ยานัสคือหนึ่งในร่องรอยนั้น เขาเองก็ตกเป็นเด็กกำพร้าเช่นกัน แต่เนื่องจากสมบัติของเพแรนดัสเริ่มแห้งเหือดบวกกับชื่อของเพแรนดัสนั้นมีประโยชน์นัก จึงไม่มีผู้ใดกล้ารับไปเลี้ยง มีเพียงอังคะราของข้าเท่านั้น
เพราะเขาเป็นผู้รอดชีวิตอีกคนที่เหลืออยู่ และเขาเป็นสมาชิกที่มีอำนาจในองค์กรอิมมอร์ทัล ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขานั่นแหละที่ขายพวกเรา
มันคงมีแค่ข้อเดียวที่ข้ามองว่าดี นั่นคือข้าจะได้เอาคมดาบของข้าแทงเข้าไปในเนื้อหนังของมันซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ซ้ำแล้ว ซ้ำอีกจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก โอริอาท: ข้าคงไม่เชื่อเจ้าถ้าข้าไม่ได้เห็นเรือเซถลาเข้าสู่ฝั่งเวร์แคลส์ทเข้ากับตา งั้น... พวกเทพเจ้าได้กลับมาแล้ว โอริอาทก็พินาศ ว่าง่ายๆ ว่ามันทำให้เรื่องต่างๆ มันซับซ้อนขึ้นไปอีก
เอ็กไซล์ ข้าเชื่อว่าองค์กรมันกำลังพยายามสร้างการปกครองรูปแบบใหม่ พวกเทมพลาร์มันโหดร้าย แต่อย่างน้อยพวกมันก็ตายได้ ถ้าอำนาจขององค์กรแข็งกล้าขึ้นไปอีก พวกมันจะสามารถปกครองเวร์แคลส์ทและที่อื่นได้โดยไม่ต้องกลัวการก่อกบฏ คนธรรมดาที่ตายได้อย่างเราจึงไม่มีตัวเลือกนอกจากยอมสยบ หรือเพิ่มเชื้อไฟให้กับวงจรการเวียนว่ายตายเกิดของพวกมันจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก โอริอาท: คิทาวาถูกสังหารแล้ว และเจ้าเป็นผู้กอบกู้โอริอาท หากเป็นยุคอื่นชื่อของเจ้าคงได้จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ แต่...
องค์กรอิมมอร์ทัลยังคงอยู่ ตั้งมั่นที่จะฉกฉวยอำนาจจากผู้รอดชีวิตที่เหลือ และเจ้าเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถโค่นล้มพวกมันได้ ได้โปรด เห็นแก่ผู้รอดชีวิตคนอื่น เราต้องมุ่งต่อไป โอริอาทได้เจอความหวาดกลัวมามากพอแล้วจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก เซฟเฮ้าส์ขององค์กร: ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ เราเลยได้ตำแหน่งที่แน่นอนของเซฟเฮ้าส์ขององค์กร ข้าเชื่อว่าผู้นำมันสั่งคำสั่งจากที่นี่แหละ
เมื่อเจ้าพร้อม ข้าจะพาเจ้าไป เราจะแทรกซึมเข้าไปพร้อมกันเพื่อโค้นล้มมัน ถ้าเราจับหัวหน้าของมันได้ มันอาจจะพาเราเข้าใกล้คนที่พวกมันเรียกกันว่า "ผู้มอบชีวี" ก็เป็นได้จุน มาสเตอร์แห่งการผนึก สมาชิกองค์กร: สมาชิกของพวกมันที่เราสยบไป... แบบว่า... พวกมันคืนชีพ ข้าไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
พวกมันไม่ได้เป็นซอมบี้ไร้ความคิด แต่ไม่ว่าด้วยวิธีไหนพวกมันกลับมา... มีชีวิตอย่างแท้จริง นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่พวกมันเรียกตัวเองว่าองค์กรอิมมอร์ทัล ความเป็นอมตะนั้นอันตราย แม้ในมือของผู้มีเจตนาดีก็ตามจุน มาสเตอร์แห่งการผนึก ห้องสมบัติต้องห้าม: {อังคะรา}ของข้า กลุ่มชนของข้า พวกเขาได้รับหน้าที่ในการปกป้องเหล่าคนในเวร์แคลส์ทจากพวกเขาเองมาเนิ่นนาน โลกใบนี้มีโบราณวัตถุทรงพลังหลายชิ้น - เจ้าได้พบมันเหมือนกันในการเดินทางของเจ้า แต่มันมีบางชิ้นที่ทรงพลังถึงขั้นว่าการใช้มันจะทำให้โลกตกอยู่ในอันตราย โบราณวัตถุอันตรายอย่างเขาแห่งคูเลมาค เราภาคีแห่งจินน์มีอยู่เพื่อเก็บวัตถุเหล่านี้ไว้เป็นความลับ มันจะดีที่สุดถ้าโลกนี้ลืมว่าวัตถุเหล่านี้กับพวกเราเคยมีตัวตนอยู่ ดีกว่าต้องมาสู้เพื่อควบคุมพลังนี้ที่พวกเขาไม่อาจหวังที่จะคุมได้จุน มาสเตอร์แห่งการผนึก เขาแห่งคูเลมาค: เราถูกสอนแค่สิ่งที่คนรุ่นก่อนสอนๆ กันมาเท่านั้น พวกเราเชื่อว่าเขานี้คือสุดยอดเครื่องมือชี้ความเป็นตายที่สามารถดูดพลังชีวิตจากสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ได้ เราไม่รู้ว่ามันมาจากไหน มันอาจจะเป็นซากของสัตว์ที่เกรียงไกรที่ตายไปนานแล้วก็ได้ ไม่ก็อาจเป็นสิ่งที่เทพเจ้าสร้างไว้เองก็ได้
ไม่ว่ามันจะมาจากที่ไหน ข้าเชื่อว่าเขานี้เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรอิมมอร์ทัลมีความสามารถคืนชีพได้ดั่งปาฏิหาริย์จุน มาสเตอร์แห่งการผนึก ภาคีแห่งจินน์: เจ้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเราเพราะเจ้าไม่จำเป็นต้องได้ยิน ข้าใช้คำว่า พวกเรา... แต่จริงๆ แล้วมันก็เหลือข้าคนเดียว พวกเรามาจากทุกชนชั้น แต่ทุกคนล้วนเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกภาคีรับเลี้ยง ถูกสอนว่าการพูดถึงภาคีนี้ถือเป็นโทษตาย ข้าเข้าใจว่ามันดูโหดร้าย แต่หน้าที่ของพวกเราสำคัญมากจนเราต้องใช้ชีวิตอย่างสันโดษและลี้ลับ
พวกเราตกเป็นความลับเป็นเวลาหลายร้อยปี หรืออาจหลายพันปีก็เป็นได้ จนกระทั่งยานัส เพแรสดัส... ไอ้... ไอ้โง่นั่น... มันขายพวกเรา มันใฝ่หาเกียรติแห่งตระกูลของมัน มันอาจทำให้เราทั้งหมดต้องเจอกับหายนะเหมือนกับชิตัส ทวดของมันก็เป็นได้จุน มาสเตอร์แห่งการผนึก เหตุที่จุนต้องต่อสู้: ข้าต้องการเหตุผลจริงๆ หรือ? ข้าถามเจ้าหน่อย เจ้าช่วยพวกคนป่วยใกล้ตายในฐานที่มั่นไลออนอายไปทำไม? เราทำสิ่งเหล่านี้ก็เพราะไม่มีใครทำไงล่ะ เราทำเพราะโลกใบนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมามากพอแล้ว หรือเจ้าอยากให้ข้านิ่งเฉยแล้วเฝ้าดูคนดีๆ อันน้อยนิดในแผ่นดินเส็งเคร็งนี้หายเข้าความมืดไปทีละคนล่ะ?
การสร้างสรรค์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยไร้ซึ่งการบ่อนทำลาย การบ่อนทำลายโดยไร้การสร้างสรรค์ก็เช่นกัน แสงสว่างและความมืด ทั้งสองต้องมีอยู่คู่กัน ไม่สามารถมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งได้ แต่ฝ่ายต่างๆ ก็พยายามทำให้เวร์แคลส์ทเสียสมดุลอันน้อยนิดของมัน แล้วจะมีใครนอกจากเราที่จะทำให้มันถูกต้องได้เล่า?จุน มาสเตอร์แห่งการผนึก ไอเทมผนึก : ข้าใช้เวลาศึกษาวัตถุเวทมนตร์ที่ทรงพลังอยู่นาน วัตถุบางชิ้นมีคุณสมบัติปกปิดตัวเองและวกวนยุ่งเหยิง ถูกผนึกไว้ด้วยคำสาป ข้าไม่สามารถเปิดผนึกวัตถุเหล่านี้ให้กลับมาเป็นดั่งที่มันเคยได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยข้าก็สามารถแก้คำสาปของมันเพื่อดึงเอาพลังบางส่วนออกมาใช้งานได้ เพียงเจ้านำวัตถุเหล่านี้มาให้ข้าผู้บัญชาการคิรัค แคสเซีย: เธองดงาม ข้ามีตาข้างเดียว ไม่ได้ตาบอดนะ แต่เธอดุดันเกินไป{มาก} ข้าเคยร่วมงานกับเธอมาก่อนเป็นทางอ้อม ตอนที่เราออกศึกเพื่อพวกเทมพลาร์ แต่เธอจำไม่ได้หรอก เธอมัวแต่ยุ่งกับกับเทพเจ้าและงานของเธอจนไม่สนใจอะไร ทหารอย่างเราเป็นผู้ตาย แล้วเธอก็บอกว่าเป็นผลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ข้าอยากเอาเพลงของเธอออกจากหัวข้าให้ได้จริงๆผู้บัญชาการคิรัค ไอนาร์: การที่ข้าเป็นนักสะกดรอย ข้าคุ้นชินกับการออกล่า แต่เขา เขาเปิดอกรับการออกล่าและไม่รับสิ่งอื่นใด ข้าพยายามขอความช่วยเหลือของเขาในการตามล่าเหล่าผู้พิชิต แต่ข้าไม่ได้รับคำตอบตรงๆ จากเขาเลยแม้แต่น้อย ข้ารู้สึกว่าเขาพบเจอพวกนั้นเป็นประจำขณะที่กระโดดโลดเต้นไปตามป่าเขา เขานึกถึงพวกเขาแต่ละคน... {อย่างสูงส่งยิ่งนัก}... กระทั่งไซรัสก็ตาม ข้านึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าพวกเขาทั้งคู่จะพูดคุยต่อกันอย่างไรผู้บัญชาการคิรัค เฮเลน่า: ข้าไม่เคยไว้ใจการ์ดดำมาก่อนสักคน ไม่ว่าจะปฏิรูปใหม่หรือไม่ก็ตาม ไม่เคยเชื่อมาก่อน และไม่มีวันเชื่อใจด้วย ไอ้เวรกราวิเชียสกับลูกศิษย์โรคจิตคามีเรียนั่น... แต่ข้าไม่น่าโทษเฮเลน่าในเรื่องนั้นหรอก ข้าแค่แค้นใจที่เขาทำให้ข้าเสียลูกตาไปข้างหนึ่งผู้บัญชาการคิรัค จุน: เธอเป็นผู้ที่อัดอั้นไปด้วยความเดือดดาลแน่ๆ ข้ารู้จักคนดีๆ ที่เคยทุกข์ทรมานในแบบเดียวกัน เมื่อทหารเจอเรื่องบางอย่างขณะที่เดินทางออกไปทำสงคราม เขากลับมาบ้านด้วยสภาพไม่เหมือนเดิม พลเรือนไม่มีทางเข้าใจเรื่องนี้ ปล่อยให้เธอจัดการความทุกข์กับการแก้แค้นของเธอให้เรียบร้อย ก่อนที่เราจะขอให้เธอช่วยเราเรื่องเหล่าผู้พิชิตเถอะผู้บัญชาการคิรัค นิโค้: เขาภักดี แต่ไม่เหมาะกับหน้าที่ใดๆ ด้วยเหตุผลที่รู้กันอยู่ ข้าเองก็อยากมีหมวกที่มีแสงติดอยู่เหมือนกันนะ เวลาข้าไปเข้าส้วมข้ามักสะดุดนั่นสะดุดนี่อยู่บ่อยๆ แต่ไม่เอาตาข้างที่เหลือไปเสี่ยงกับไฟก็ดีแล้วนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก โอริอาท: โตในเมืองโอริอาท ก็เคยชอบมันนะ... วัยเยาว์ข้าชอบบุกตะลุยหาซัลไฟต์ ไม่มีใครอื่นรู้วิธีรับมือมัน แต่พวกเทมพลาร์มันหิวโหยต้องการมันมาก พวกมันจะเอาไปจ่ายพลังงานให้กับเครื่องจักรเทพบ้าบออะไรของมันนี่แหละ ก็พอเป็นงานหาเลี้ยงตัวได้จนกระทั่ง...
เอ่อ เอาเป็นว่าข้าเคยคิดว่าตัวเองเป็น... ศาสดา แล้วพวกเทมพลาร์มันไม่ค่อยชอบนักหรอกเวลาใครเรียกตัวเองว่า 'ศาสดา' มันเลยจับข้าขังไว้ในโรงพยาบาลบ้า!? แต่ข้าก็ขุดหนีออกมาจนได้ พวกเทมพลาร์มันเกลียดคนหลบหนียิ่งกว่าหมอดูซะอีก ข้าก็เลยมาอยู่นี่ไง ขุดคุ้ยซากที่พวกนิรันดร์ทิ้งไว้นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก โอริอาท: ถ้าเจ้ารู้วิธีจัดการวอลทาซิกซัลไฟต์โดยไม่ทำให้แขนขาด เจ้าคงรวยเละที่โอริอาทไปแล้ว ก็อย่างที่เจ้าเห็นล่ะ แขนข้ายังอยู่ดี ข้าขายซัลไฟต์บางส่วนให้พวกเทมพลาร์ไป ข้าไม่คิดจะถามพวกมันหรอกว่าจะเอาไปทำอะไร แต่เวลามีเสียงพูดกับข้าทั้งๆ ที่ไม่เห็นตัวคน ข้าก็ไม่รู้จะไปถามใครนอกจากพวกมัน
เจ้าเคยแหกโรงพยาบาลบ้าของพวกเทมพลาร์ไหมล่ะ? มันง่ายกว่าที่เจ้าคิดนะ ง่ายกว่าซ่อนจากพวกเทมพลาร์ซะอีก พวกมันจับข้าส่งมาเวร์แคลส์ททันทีที่พวกมันจับข้าได้ พวกมันคงคิดว่าการลืมข้ามันง่ายกว่าการรักษาข้าจากเสียงพวกนี้สินะนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก โอริอาท: เจ้าอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการทดลองแปลกๆ ของพวกเทมพลาร์ที่โอริอาทมาบ้างนะ เหะ? บางทีอาจจะเห็นผลของมันที่นี่แล้วก็ได้ มันต้องใช้พลังงานเยอะมากที่จะทำอะไรแบบนั้น ข้าคิดว่า... มันอาจจะเป็นข้านี่แหละที่เป็นแหล่งพลังงานของพวกมัน เพราะที่โอริอาทไม่มีใครจัดการวอลทาซิกซัลไฟต์ได้ ข้าขายพวกมันให้กับไอ้พวกเทมพลาร์จนทำเงินได้ก้อนโตเชียวแหละ
พอข้าเริ่มได้ยินเสียง... ผู้คน... ข้าก็ไปขอให้พวกเทมพลาร์มันช่วย คิดว่าพวกมันจะช่วยคนเหมืองที่ภักดีต่อพวกมัน แต่ไม่ พวกมันจับข้าขังแทน! ข้า! ในโรงพยาบาลบ้าเนี่ยนะ! จริงๆ เอาเงินติดสินบนพวกมันออกมาก็ได้ แต่ข้าดันขุดออกมาแทน จริงๆ ซื้อพวกมันก่อนโดนส่งมาเวร์แคลส์ทก็ได้ แต่ตอนนั้นสมองข้ามันไม่ปกติแล้ว ตอนนี้อาจยังไม่ปกติด้วยซ้ำนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก โอริอาท: ข้าขายวอลทาซิกซัลไฟต์ให้ไอ้พวกเทมพลาร์จนรวย ไม่รู้หรอกว่าพวกมันเอาไปทำอะไร แต่ก็เดาได้ไม่ยากนักหรอก หลังจากนั้นไม่นานข้าก็เริ่มได้ยินเสียง... พวกมัน เสียงพูด พูดกับข้า พูดเกี่ยวกับผู้คนรอบๆ ตัวข้า สิ่งที่ข้าไม่ควรรู้ ความลับ ความลับที่แสนวิเศษและโหดร้าย
ข้าไปหาพวกเทมพลาร์และบอกสิ่งที่ข้ารู้กับพวกมัน สิ่งที่ข้าได้ยินมา และใครเป็นคนพูด ไอ้พวกเทมพลาร์ไม่ยอมเชื่อข้า จับข้าขังไว้ใน... คุก! แต่เสียงนั่นมันบอกวิธีหนีให้กับข้า บอกให้ข้าขุด ขุด ขุด ขุด ขุดหาเสรีภาพ พวกเทมพลาร์ไม่ชอบที่ข้าหนีออกมา ไม่ ไม่ พวกมันส่งกองทัพมาไล่ตามข้า แล้วจับข้าลงเรือทาส แล้วส่งข้ามาทิ้งไว้ให้เน่าตายในเวร์แคลส์ท แต่ข้าไม่ได้เน่าอยู่นี่ ใช่ไหม เอ็กไซล์? ข้าแข็งแรงกว่าที่เคย เหะๆๆนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก โอริอาท: เหะๆๆ พวกมันคิดว่าจะฆ่านิโค้คนนี้ได้ คิดว่าข้าจะตายตรงนี้ คิดว่าข้าจะตายไปพร้อมกับความลับของพวกมัน! แต่ข้าก็ยังหายใจอยู่ ยังขุดหินสวยๆ ของพวกมันออกมาอยู่ เหมือนกับที่ข้าเคยทำในโอริอาท ซึ่งพวกมันจะไม่ได้ไปแม้แต่เม็ดเดียว
พวกมันคิดว่าจะขังข้าจากเสียงโกรธแค้นนั่นในห้องมืดๆ นั่นได้ แต่ข้าก็หลุดออกมา วิ่งว่อนกลางเมืองในชุดนักโทษนี่แหละ มือเต็มไปด้วยเลือด พวกมันตามรอยเลือดข้ามา แต่ก็ฆ่าข้าไม่ได้ ถึงขนาดต้องส่งข้ามาที่ทวีปต้องสาปนี่ให้ข้าเน่าตาย เจ้าคิดว่าพวกมันยังพยายามจัดการข้าไหม เอ็กไซล์ ส่งสายลับมาจัดการข้า?
บางทีเราน่าจะโยนมันไปเป็นอาหารของความมืดนั่นนะนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก นครใต้พิภพ: ไอ้พวกจักรวรรดินิรันดร์มันสร้างทับซากของพวกวาล์ มันก็เลยไม่แปลกที่จะเจอซากวาล์ที่ข้างใต้นั่น แต่ก็เจอร่องรอยอื่นๆ เหมือนกัน อารยธรรมอื่นที่ไม่ใช่พวกจักรวรรดิหรือวาล์ เคยขุดหลุมศพวาล์แบบไม่สนใจอยู่พักหนึ่ง จนได้มานั่งนับจำนวนกระดูดกดู... เลยรู้ว่ามันใช้กระดูกพวกนี้แหละสร้างเมือง ข้าไม่ใช่นักประวัติศาสตร์นะ แต่ข้าก็ไม่เคยได้ยินว่าวาล์มันใช้กระดูกมนุษย์สร้างเมืองมาก่อนเหมือนกันนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก นครใต้พิภพ: ไม่ต้องแปลกใจถ้าเจ้าขุดลงไปลึกพอแล้วเจอซากของพวกวาล์ พวกจักรวรรดินิรันดร์สร้างเมืองทับพวกมันไว้ ดีไม่ดีอาจจะเจอพวกมันเดินเพ่นพ่านในห้องโถงก็เป็นได้ แต่ถ้าเจ้าเจอ... ซากอารยธรรมอื่น... ระวังตัวไว้ให้ดี ไม่มีใครเก็บกระดูกมากมายขนาดนั้นอย่างสงบหรอกนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก นครใต้พิภพ: เจ้าอาจจะเจอซากเยอะแยะที่ข้างล่างนั่น ไม่ว่าจะพวกนิรันดร์ หรือ วาล์ หรือ... พวกอื่นๆ เจ้าจะรู้เองแหละถ้าเจ้าเจอพวกมัน กระดูกเต็มไปหมด กำแพงกระดูก เสากระดูก กองซ้อนกองซ้อนกอง เล็กใหญ่ กระดูกเด็กก็มี พวกวาล์อาจจะโหดร้าย แต่พวกมันก็ยังดีกว่าพวกที่มาก่อน พอข้าเจอเข้า ข้าไม่กล้าลงลึกกว่านั้นเลย คิดอยู่เลยว่าไม่น่าลงไปลึกขนาดนั้นแต่แรกด้วยซ้ำนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก นครใต้พิภพ: เจ้าได้ยินพวกมันเดินไปมาข้างล่างนั่นไหม? พวกวาล์ ขดตัวอยู่ในซาก ยังคงคุ้ยเขี่ยผนังและพื้นดินอยู่ จักรวรรดิมันล่มสลายไปหลายพันปีแล้ว แต่พวกมันไม่ ในสายตาข้า มันยังไม่ตาย พวกมันอยู่ข้างใต้นี้ แต่อะไรอยู่ข้างใต้พวกมันล่ะ? ข้ารู้... เจ้าได้ยินเสียงกุกกักจากกระดูกของพวกมันไหม เอ็กไซล์? ้เชื้อเชิญพวกเราให้ดิ่งลึกลงไป ลึกลงไป ลงไปยังหลุมกระดูกของพวกมัน? แล้วอะไรอยู่ใต้กระดูกพวกนั้นล่ะ เอ็กไซล์? อะไรอยู่ใต้กระดูกพวกนั้น?นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก นครใต้พิภพ: วัตถุโบราณของจักรวรรดินิรันดร์อยู่บนวาล ซากวาล์ก็อยู่บนสุสานที่ยังมีชีวิต ลึกลงไป ลึกลงไป ลึกลงไปอีก ชั้นซ้อนทับชั้น ทศวรรษทับศตวรรษ ไม่หยุดที่จะสร้างขึ้น พวกเราก็ไม่หยุดที่จะขุดลง เหะ? อยู่ที่เวลาแล้วล่ะที่เราจะโดนฝังไปอีกคน เอ็กไซล์ แล้วความลับที่จะฝังไปกับเราล่ะ? ความลับที่คนรุ่นหลังจะขุดคุ้ยมาเจอจากเรา? เหเหเห... ข้ามีความลับนะ แล้วเจ้าล่ะ เอ็กไซล์?นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก กำแพงร้าว: เจ้าระเบิดทิ้งไปแล้วสินะ กำแพงน่ะ แถมยังรอดกลับมาด้วย! ยอดเยียมกระเทียมเจียว หวังว่าคงจะเจออะไรดีๆ ที่อีกฟากนั่นนะ
เออ เจ้าเอ็กไซล์ มันก็มีแค่นั่นแหละ ง้าย ง่าย เพราะงั้น... กลับไปหาแร่มาเติมเถอะ เหะ?นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ความมืด: ความมืดหลังกำแพงนี่มันไม่ธรรมชาติ แม้ท่ามกลางแสงมันก็ไม่สว่าง... แค่ถดถอยเท่านั้น เหมือนมันมีชีวิต ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่ออกห่างจากโคมไฟเลยนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ความมืด: ยิ่งเราดิ่งลึกแค่ไหน ความมืดมันยิ่งทำให้ข้ากลัว ข้าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน และข้าก็ขอให้ไม่เจออะไรแบบนี้อีกเลยเถอะ จงอยู่ในแสงสว่างไว้ เอ็กไซล์ ถ้ายังไม่อยากตายนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ความมืด: พวกมันอยู่ข้างนอกนั่น เอ็กไซล์ คอยเฝ้ามองพวกเรา พวกมันอยู่รอบๆ ตัวเรา เจ้ารู้สึกไหม? ความมืดนั่นต้องการเลือดเนื้อเรา ต้องการเขมือบเราเหมือนกับเหล่าพวกที่มาก่อน มันต้องมีอะไรให้พลังกับมันแน่ๆ อะไรสักอย่าง... ไม่ก็ใครสักคนนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ความมืด: เจ้าได้ยินมันไหมเอ็กไซล์? พวกมันโดนกักขังไว้ที่นี่ ความมืดกักขังพวกมันไว้... เป็นเหยื่อล่อ! ล่อพวกเราให้ออกจากแสงสว่าง แต่พวกเราไม่ได้โง่ ใช่ไหม เอ็กไซล์? ไม่ ไม่ ไม่... เราจะไม่โดนล่อไปยังความมืดง่ายอย่างนั้นนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก ความมืด: พวกมันกำลังเรียกเราอยู่... พวกมันเรียกเราอีกแล้ว เอ็กไซล์ เราต้องตอบพวกมัน ต้องไปหาพวกมัน ปลดปล่อยพวกมัน พวกมันต้องการเรา เอ็กไซล์ เจ้าต้องรีบแล้ว ความมืดมันเริ่มล้อมเราแล้ว เอ็กไซล์ มันหิวโหย มันเลียใจเรา ลิ้มรสความกลัวของพวกเรา เลีย เลีย เลีย! แค่ลิ้มรสเท่านั้นแหละ เอ็กไซล์ ตอนนี้แค่ลิ้มรสเท่านั้นนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก พูดคุยกับนิโค้: เหะ? อ๋อ ตอนนี้ข้ายุ่งอยู่น่ะนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก พูดคุยกับนิโค้: เหะ? อ๋อ ตอนนี้ข้ายุ่งอยู่น่ะนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก พูดคุยกับนิโค้: เหะ? อ๋อ ตอนนี้ข้ายุ่งอยู่น่ะนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เหมืองอะซูไรต์: มันก็ไม่ใช่ที่ที่สวยงามอะไรในเวร์แคลส์ทหรอก แต่มันก็แห้งและปลอดภัย ตราบใดที่เจ้าอยู่ในแสงสว่างน่ะนะ ข้าก็ไม่ได้สนใจวิวสวยๆ อยู่ละ ข้าชอบบรรยากาศสบายๆ ใต้ร่มเงามากกว่า ไอ้ที่ว่ามานี่ในเวร์แคลส์ทก็มีแต่พวกกินคนยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เหะ?นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เหมืองอะซูไรต์: เอ๋... ตะกี๊เจ้าอยู่ในนั้นไม่ใช่เหรอ ข้าก็เลยเข้าไปเช็คดู แล้วก็ไม่เห็นเจ้าจริงๆ ข้าสาบานเลยว่าได้ยินเสียงอะไรในนั้นจริงๆ นานิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เหมืองอะซูไรต์: ข้าว่าพวกมันกลับมาแล้วล่ะเอ็กไซล์ เสียงพวกมันเรียกหา ข้าได้ยินพวกมันเรียกข้าจากข้างล่างนั่น เสียงกระซิบ ตรงนู้น ตรงนี้ ทั้งกระซิบและขูดขีด เหมือนพวกมันโดนฝังลึกที่ไหนสักแห่ง ข้าก็นึกคำพูดไม่ออก แต่ข้าสัมผัสความรู้สึกมันได้ พวกมันไม่สุขนักหรอก ไม่สุขเลยล่ะนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เหมืองอะซูไรต์: ชั้น ซ้อน ชั้น ซ้อน ชั้น... นั่นคือวิธีที่พวกเราสร้างๆ กันมา ซาร์นสร้างทับซากของวาล์ พวกวาล์ก็สร้างทับซากของกระดูก แล้วอะไรอยู่ใต้กระดูกล่ะ เอ็กไซล์?
ข้าก็ยังได้ยินเสียงพวกมันข้างใต้นั่นอยู่เลย กึกๆ กักๆ ขูดตบหินอยู่ พวกมันอยากออกมา ต้องการสิ่งที่เรามี ต้องการชีวิตเรา ต้องการจิตเรานิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก เหมืองอะซูไรต์: ต้องขุดต่อไปอีกเอ็กไซล์ ต้องขุดต่อไป! ต้องปลดปล่อยมันออกมา ต้องทำให้พวกมันหยุดพล่ามแล้วล่ะ มันดังเกินไปแล้ว เอ็กไซล์ แล้วพวกมันก็โกรธด้วย ตะโกนมาที่เรา ไม่เข้าใจสักคำหรอก คงจะได้อะไรมากกว่านี้ถ้าพวกมันเงียบบ้างสักนิด
เจ้าทนเสียงพวกนั้นได้ยังไง เอ็กไซล์? ไอ้เสียงบ้าๆ พวกนี้ทำให้ข้านึกอะไรไม่ออกเลย หวังว่าใครสักคนจะทำให้พวกมัน... หายไปนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก พรอสเพโร: กองทอง หรอ? ที่นี่ไม่ใช่เหมืองทองนะเฮ่ย ดูเหมือนเจ้าจะเข้าไปเจอสถานบูชาของพรอสเพโรอันเก่าแก่เข้าแล้วล่ะ นักขุดเค้ารู้ๆ กัน บางคนยังเคยต่อรองกับเขาเพื่อทรัพย์สินกับชีวิตเลยด้วยซ้ำ พวกมันคิดเหมือนๆ กัน ว่าสองอย่างนี้มันแทนกันได้ ถ้าเจ้าเชื่อเรื่องโง่ๆ แบบนั้น ข้าก็คงมีนกโรอ์บินได้มาขายเจ้าแล้วละนิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก พรอสเพโร: ลัทธิส่วนใหญ่มันหายไปพร้อมกับจักรวรรดินิรันดร์ แต่ดูเหมือนเจ้าจะเจอกับแท่นบูชาของพรอสเพโรแล้วสิ ตามที่เขาว่ามา พรอสเพโรดูแลทุกสิ่งที่มาจากดิน คนเหมืองมักจะถวายเครื่องบรรณาการกับเขา บางทีพวกมันอาจจะหวังให้พรอสเพโรปกป้องพวกมันจากการโดนดินยุบก็เป็นได้ ไม่งั้นก็ระเบิด หรือไม่ก็แก๊สพิษ
นี่ข้าบอกเจ้าหรือยังว่างานนี้มันอันตรายแค่ไหน?นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก พรอสเพโร: ข้อตกลงโสโครกที่ทำขึ้นใต้ดิน นั่นคือความหมายของกองทองข้างล่างนั่น มันคือข้อต่อรองกับเทพแห่งความมั่งคั่งและภพใต้ดินนามว่าพรอสเพโร การที่มันยังอยู่อาจเป็นหลักฐานว่าพรอสเพโรได้จากไปแล้ว หรือ... ไม่งั้นเครื่องบรรณาการนั่นอาจจะเพิ่งเกิดไม่นานมานี้ หวังว่าเจ้าจะไม่ไปรบกวนมันนะ คงไม่อยากล่อให้เทพโมโหหรอกใช่ไหม? เหะ?นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก พรอสเพโร: พวกมันพยายามแลกเปลี่ยนกับพรอสเพโร นั่นคือเหตุผลที่เจ้าเจอทองคำมากมายที่ข้างล่างนั่น บ้างก็ต้องการหนีชะตาดำมืด สูญเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มี แต่มันก็ยังอยู่ตรงนั้น แสดงว่า... เทพแห่งความมั่งคั่งต้องมีล้นเกินแล้วแน่ๆ ไม่งั้นเทพก็ไม่มีอยู่จริง ตำนานพวกนี้มันก็มีไว้แค่หรอกเด็ก หรือหลอกเอาเงินจากพวกคนบ้าหรือคนโง่เท่านั้นแหละ ข้าไม่ได้โง่นะ ใช่ไหม? ไม่... ข้าไม่โง่นิโค้ มาสเตอร์แห่งเหมืองลึก พรอสเพโร: ทองคำมันจะไปมีค่าอะไรกับคนตายล่ะ? ใช้เงินไม่ได้หรอกถ้าขยับไม่ได้หรือหายใจไม่ได้ โกงเงินจากพวกที่มีอำนาจกว่าไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? พรอสเพโร เทพแห่งหินล้ำค่า! เขาจะให้เจ้ามีชีวิตต่อในนั้น... ด้วยราคาที่เหมาะน่ะนะ อันนี้ข้าได้ยินเขาพูดมาอีกที พวกมันก็พูดกันแต่เรื่องเดิมๆ บอกให้ข้าให้ไปอีก ให้ของงามที่ข้ามี แต่ข้าจะได้อะไรล่ะ? พวกเขายังพิสูจน์ไม่ได้เลยว่าข้าตายไปหรือยัง ใช่ไหมล่ะ? พิสูจน์ได้ไหมล่ะว่าพวกเราทุกคนไม่ได้ตายไปหมดแล้ว! หินพวกนี้จะเป็นของข้าจนกว่าข้าจะตายจริงๆ
ถ้าพรอสเพโรอยากได้มันมากนัก ก็เข้ามาเอากับข้าเอาเลยสิ... เหะๆๆๆๆ... อยากรู้เหมือนกันว่าเลือดเทพมันรสชาติเป็นยังไงทาเน อ็อกเทเวียส วิชาเล่นแร่แปรธาตุ: อาจารย์ของข้าเรียกวิชาเล่นแร่แปรธาตุว่าเป็นศาสตร์แห่งการเปลี่ยนบัณฑิตให้เป็นคนเขลา ไอ้พวกที่มีความรู้ครึ่งๆ กลางๆ เข้าหน่อยล้วนแล้วแต่พยายามเปลี่ยนตะกั่วให้เป็นทองคำแทบทุกคน หรือไม่ก็คิดค้นยาอายุวัฒนะเพื่อให้เป็นหนุ่มสาวตลอดกาล ซึ่งอาจารย์ลูแคนก็ไม่ต่างกัน แต่ทว่าคนอย่างเขาแทบไม่ได้เห็นมนต์เสน่ห์ของวิชาเล่นแร่แปรธาตุใกล้ๆ จริงๆ สักที เมื่อของเหลวขึ้นฟอง รู้สึกถึงความร้อนที่ค่อยๆ ร้อนขึ้นในมือ สีฉูดฉาด และกลิ่นเหม็นรุนแรงนั่น ภูมิปัญญาได้สูญหายไปกับการคอยหลบอยู่ในที่ปลอดภัย
ในความเป็นจริง พลังของวิชาเล่นแร่แปรธาตุไม่ใช่การเปลี่ยนสิ่งหนึ่งไปเป็นอีกสิ่งหนึ่งหรือการสร้างปาฏิหาริย์ แต่มันคือการแยกและสกัดต่างหาก มันคือการค้นหาความบริสุทธิ์ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายทาเน อ็อกเทเวียส ตัวเร่งปฏิกิริยา: ในวิชาเล่นแร่แปรธาตุ บางครั้งการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่บางครั้งก็ต้องใช้ความอดทน คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อาชีพที่มุ่งหาเป้าหมายที่แปลกประหลาดอย่างนักเล่นแร่แปรธาตุนี้จะมีแต่พวกไร้ความอดทน จึงทำให้เกิดการค้นพบตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งเป็นสสารเร่งการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ส่งผลข้างเคียง
เจ้าอาจจะพบว่าสสารตัวนี้มีประโยชน์ในการหาอะไรบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่นคุณสมบัติซ่อนเร้นพิเศษในวัตถุดิบบางประเภท ซึ่งปกติเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาหลายปีทาเน อ็อกเทเวียส การเนรเทศ: มีผู้บริสุทธิ์กี่คนที่ถูกเนรเทศที่เจ้าพอจะนึกออกบ้าง? พวกเราถูกเนรเทศเพราะพวกเรามันหัวรุนแรง เพราะพวกเราทำผิดกฎของแผ่นดิน
ข้าสังหารอาจารย์ของข้าเอง ข้าไม่เสียใจที่เขาตาย แต่เสียใจที่ข้าเป็นผู้ลงมือ อาจารย์ของข้าเป็นคนน่าขยะแขยง และมีความปรารถนาอันชั่วช้า มันคือความผิดปกติในจิตใจที่วิชาเล่นแร่แปรธาตุก็ไม่อาจรักษาได้ ซึ่งเขาได้ถ่ายทอดโรคนี้มาให้ข้า
ข้าไม่เคยเป็นคนหัวรุนแรงเลยจนถึงวันนั้น จนถึงวันนั้น ข้าไม่เข้าใจว่าผู้ที่พรากชีวิตผู้อื่นทำลงไปได้อย่างไร แต่ลูแคนได้ดึงเอาความโกรธที่ข้าไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัสออกมาจากตัวข้า มันกลืนกินตัวข้า บังคับให้ข้าสูญเสียร่างตัวเอง แล้วเมื่อข้ารู้สึกตัวอีกที อาจารย์ของข้าก็สิ้นชีพแล้ว
ความโกรธอันนี้แหละ มันคือความมืดที่ยังอยู่ในตัวข้า เอ็กไซล์ และนั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ทาเน อ็อกเทเวียส แนะนำตัว: เข้ามาแค่นั้นแหละ ยกเว้นว่าเจ้าอยากจะเผชิญกับสิ่งที่อยู่ในหลอดทดลองของข้าด้วยตัวเอง นามของข้าคือทาเน ข้าเป็นทาสที่เป็นไท และข้าก็อยากให้เป็นเช่นนั้นต่อไป
ข้าไม่ให้ความเชื่อใจกับใครได้ง่ายๆ เจ้าต้องแสดงให้ข้าเห็น เอ็กไซล์ ซึ่งเจ้ายังไม่ทำให้ข้าเชื่อใจเลยสักนิด แต่ข้าก็มีอะไรจะให้เจ้า มันคือโอกาสทาเน อ็อกเทเวียส พายตี้: อาจารย์ของข้ารู้จักกับแผนการของพวกเทมพลาร์หัวกะทิอย่างเธอแน่นอน ข้ารู้สึกสัมพันธ์กับเธอนะ เพราะพวกเราทั้งสองต่างสูญเสียชื่อไป ถึงแม้ว่าเธอจะตั้งใจทำมันด้วยตัวเองก็ตาม พวกเราต่างพยายามสร้างบางสิ่งเพื่อตนเอง แต่ความรู้สึกสัมพันธ์นี้มันก็จบลงตรงที่วิธีการที่เธอทำให้ตนเองมีชื่อเสียงได้สำเร็จ ข้าชอบความรู้สึกใฝ่รู้นะแต่ว่า ข้าจะไม่มีวันให้อภัยวิธีการที่เธอใช้ในการได้ความรู้นั่นมา
หากสิ่งที่เจ้าพูดมามันจริง ว่าตอนที่เธอกำลังจะตาย เธอพยายามไถ่บาปของเธอเอง มันก็เป็นแสงส่องทางในการสำรวจความมืดมิดนี้ บางทีความตายอาจจะเป็นสิ่งผลักดันให้เราทำความดีก็ได้ เพื่อยับยั้งสันดานดิบของเรา... สิ่งที่เราทำไว้อยู่นานกว่าชีวิตของเรานี่นาทาเน อ็อกเทเวียส เป้าหมาย: งานที่ข้ามอบหมายให้เจ้าเป็นงานอันตราย การเผชิญหน้ากับความโหดเหี้ยมที่สถิตอยู่ในสิ่งมีชีวิต ถูกกลั่นกรองและปรากฏออกมาให้ประจักษ์ นี่ไม่ใช่งานที่ข้าอยากให้ใครต้องได้ทำ แต่ข้าก็ยังต้องขอร้องเจ้า เจ้าอาจจะถามตัวเองว่า จะแยกความมืดนี้ออกมาเพื่อเหตุใด?
ข้าเคยคิดว่ามันเป็นอาการของมลภาวะที่ขจรขจายอยู่ในเวร์แคลส์ท แต่ตอนนี้ ตอนนี้ข้าเชื่อว่ามันเป็นอะไรที่ลึกไปกว่านั้นและส่งผลกว้างขวางกว่าที่เคยคิดไว้ ธาตุแท้ของตัวตนที่แท้จริงของพวกเรามาจนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครรู้จริง และการทำความเข้าใจมันก็คือการทำความเข้าใจชีวิตทั้งหมด เท่านั้นยังไม่พออีกหรือ?
เอาล่ะ มันยังมีเรื่องราวอีกมากมาย แต่มันต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยทาเน อ็อกเทเวียส อาจารย์ของทาเน: ในโอริอาท ข้าเคยทำงานให้ชายที่ชื่อลูแคน อ็อกเทเวียส เขาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มั่งคั่งและมีฐานะ ข้าเรียกเขาว่าอาจารย์ เพราะข้าเป็นทั้งลูกศิษย์และทาสของเขา งานของลูแคนต้องทำงานกับสสารที่แสนอันตราย บ่อยครั้งก็ร้อนมากๆ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผู้มีฐานะอย่างเขาจะมาทำด้วยตัวเอง มันเลยกลายเป็นว่าทาสอย่างข้าต้องมาเรียนรู้ความแตกต่างของวิชาเล่นแร่แปรธาตุด้วยตัวเอง
ส่วนลูแคนน่ะเหรอ เขา... ตัวจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เขาสร้างภาพเลย เขาเป็นคนที่อันตรายมาก ระเบิดง่ายมาก และไร้ความเสถียรยิ่งกว่าสสารใดๆ ที่ข้าเคยพบเจอ เขาดูเป็นคนแก่ใจดีในที่สาธารณธ แต่ในบ้านของเขา เขาทั้งใช้ความรุนแรงและเต็มไปด้วยตัณหา
ข้าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา เสียใจแค่ที่ข้ามีส่วนร่วมทาเน อ็อกเทเวียส วิสัยทัศน์: เพื่อสร้างอสุรกายแห่งความมืดเราจะต้องใช้ชิ้นส่วนจากสิ่งที่ตายแล้ว เราทำลายชิ้นส่วนนั้นและดึงเอาความอาฆาตแค้นที่ฝังอยู่ภายในออกมาทำให้เกิดเป็นร่างขึ้น โดยข้าคาดหวังว่าสักวันหนึ่งเราอาจจะทำสิ่งตรงกันข้ามได้ นั่นก็คือทำลายความมืดทิ้งไปโดยเหลือร่างกายเอาไว้
และเพื่อการนั้น ข้าได้รับต่อมหายากมา ไม่มีอะไรเหมือนกับสิ่งนี้ในโลกใบนี้อีกแล้ว มันคือธาตุแท้ของมนุษย์ ไม่ว่าด้วยเจตนาหรือวัตถุประสงค์ทั้งหมดทั้งมวล มันก็คือวิญญาณนั่นเอง บุคคลนี้เป็นผู้โหดเหี้ยมอำมหิตเหนือสิ่งใดจะสามารถวัดได้ แต่ข้าก็ได้ยินมาว่า เขาก็มีความเมตตาอยู่เช่นกัน และตอนนี้มันก็แข็งแรงมากพอที่จะนำไปฝังไว้ในสิ่งมีชีวิตอื่นที่มีอารมณ์โหดร้ายพอกัน ซึ่งมันจะเกิดเป็นชีวิตใหม่ขึ้นมา
ทีนี้ลองจินตนาการดูว่าถ้าเราสามารถทำลายความมืดนี้ได้ วิญญาณอำมหิตนี้จะถูกชำระล้างหรือไม่? เราจะสามารถช่วยมันไว้ได้หรือไม่ ไม่ใช่แค่จากความตาย แต่จากการวินาศไปชั่วนิรันดร์ด้วย?
นั่นแหละคือเป้าหมายที่แท้จริงของข้าทาเน อ็อกเทเวียส ทูโคฮาม่า: ข้ารู้เรื่องเชื้อสายที่แท้จริงของข้าน้อยมาก แต่ข้าก็รู้มากพอที่จะเข้าใจได้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากชัยชนะที่เจ้ามีต่อเทพคารุยแห่งสงคราม การหลับอันยาวนานของเขาทำให้เขาอ่อนแอใช่ไหม หรือบางทีความเป็นเทพของเขาอาจจะเป็นแค่คำพูดเกินจริงที่เกิดมาจากตำนานเล่าขาน? ไม่ว่าจะเป็นเช่นใด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทวยเทพเพื่อต่อกรกับธาตุแท้ของความมืดอย่างแน่นอน พวกเขาไม่ใช่ผู้พิทักษ์มนุษย์อย่างที่หลายคนเชื่อว่าพวกเขาเป็นทาเน อ็อกเทเวียส โอริอาท: โอริอาทไม่มีวันอยู่ได้อีกต่อไป ข้าว่ามันสมควรแล้วแหละ ข้ารู้สึกเสียใจกับคนตายไหม? แน่นอน ข้าไม่ใช่ปีศาจนี่นา แต่ความเสียใจกับความขุ่นเคืองมันอยู่ร่วมกันได้ โชคดีที่เราไม่ต้องอยู่ในโอริอาท เราแค่ต้องทำงานที่นั่น และห้องทดลองใต้ดินของเรานั้นก็ไม่มีความเสียหายเลยแม้แต่น้อยคาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม สะพานความทรงจำ: Exile, there is something about all this that I cannot fathom. The memories I somewhat understand. A man's thoughts, a woman's remembrance, a child's sorrow - these things come from the living, or the once-living. They are real. But the ancient bridges that you cross between memories? Those were already out there. They came from no man, woman, or child of our land.
I suspect those pathways are not made of the iron we think we see. To dwell on their origins or true nature could send one over the brink, I suspect!
คาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม เครื่องสังเคราะห์: These are memories, yes, but they are also real in a sense. We feel pain within them. We find real material objects within them. Yet some of these objects are not quite right. It is as though they are stuck, half-remembered.
There's a device in the Nexus that seems attuned to such objects. It seems to draw upon their properties to create something new. Its creator must have been seeking something very important in his or her past... I wonder if they ever found it.
คาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม ชิ้นส่วนความทรงจำ: Even shattered as I am, I know that memories floating around like this is not... normal. I believe something terrible has happened to me.
What if other men fall victim? What if mothers forget their children? What if... what if the children are left alone and scared to fend for themselves in a world of nightmare... Exile, can you fathom the horror?
คาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม อดีตของคาวาส: I remember nothing at all, save the flash of the sun on my mortal skin in a dream. I was a living man. I know I was. Ask me again when we have retrieved further memories, and I shall hopefully have more to tell you.คาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม อดีตของคาวาส: I was... a good man! I fought for God. I remember saying so. That symbol... the Descry... it stirs my half-remembered blood to think of it. I wanted to do good things. Important things. Can you imagine finding the truth of oneself on the wrong side of morality? I have thought long on this fearful notion... but now I know, exile, and that relieves me. I am no longer afraid to recover more of my memories.คาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม อดีตของคาวาส: ตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าฉันเป็นนักรบ ใช่ฉันจำได้ว่าดูขบวนพาเหรดอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาผ่านทาง Oriath Square ตั้งแต่ยังเป็นเด็กและฉันยังสามารถรู้สึกถึงความพึงพอใจในวันที่ฉันสวมเสื้อคลุมอย่างแท้จริง ความเจ็บปวดและการเสียสละทั้งหมดคุ้มค่าที่จะทำเพื่อปกป้องมนุษยชาติ ... เพื่อปกป้องเด็ก ๆ ...คาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม อดีตของคาวาส: I was a Templar, yes, but now I remember that I secretly despised them. I understood that they were a diseased organization prone to brutal oppression. Friend, was I exiled as well? I cannot imagine my resentment would have gone over well with my superiors. Maybe I kept my thoughts to myself and lived a life of quiet desperation, but I feel like I was the kind of man to act.
So what did I do?
คาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม เชื่อมความทรงจำ: I remember this! This place is the Nexus of... uh... something. The name doesn't matter. What matters is what it can do! A doorway! A doorway into these memories!
Here. Take them and lay them out in this machine. It will reinforce the stability of the memories. They won't last too long, mind you, but they'll remain long enough to be explored. Build a path to the memories that lay out of reach. I'm sure this will help us. Sure of it!คาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม เชื่อมความทรงจำ: I remember this! This place is the Nexus of... uh... something. The name doesn't matter. What matters is what it can do! A doorway! A doorway into these memories!
Here. Take them and lay them out in this machine. It will reinforce the stability of the memories. They won't last too long, mind you, but they'll remain long enough to be explored. Build a path to the memories that lay out of reach. I'm sure this will help us. Sure of it!คาวาส วิญญาณผู้ถูกลืม เชื่อมความทรงจำ: Yes, that was wonderful Exile. For a brief moment I felt whole again. Here, let me try something...
Hello Exile, my name is-...
Oh. Oh dear. I thought, maybe... But no.
Well perhaps we can try again. Though the machine seems to keep the memories more stable, they still degrade. Keep that in mind - because I'm not so sure I will be able to. |
8 | Complete the Courtyard of Wasting Complete the Courtyard of Wasting.Complete the Courtyard of WastingNPC: อีกอน คาเซอริอุส ความทรงจำของซานะ: รอยแยกนี้และรอยแยกอื่นๆ ทำให้เราได้เหลือบเห็นว่าความเป็นจริงมิติอื่นมีองค์ประกอบเช่นไรบ้าง ข้าใช้เวลาแยกแยะองค์ประกอบของมิติเหล่านี้อยู่พักใหญ่ แต่การไล่ย้อนไปจากโครงสร้างสุดท้ายของมันทำให้ข้านำไปตีความใหม่ด้วยการนำการก้องสะท้อนของความทรงจำมาซ้อนทับกัน แล้วไปชดเชยกับความพัวพันจากแอตลาสเสียเอง...
หืมมม... เจ้าไม่เข้าใจข้าเหรอ? เราพูดถึงธรรมชาติของโลกความจริงกันแค่นั้นเอง!
อธิบายง่ายๆ ก็แบบนี้ การพบรอยแยกเหล่านี้ทำให้เราเข้าถึงความทรงจำภายในนั้นได้ แล้วเราก็สามารถไล่ตามคนที่สร้างรอยแยกพวกนี้ได้ นั่นก็คือผู้รังสรรค์นั่นเอง
โชคร้ายที่แอตลาสกลับทำให้การ... {นำเสนอ}ความทรงจำเหล่านี้ไร้ซึ่งความเสถียรแม้แต่น้อย... แต่หวังว่าเราจะเข้าถึงผู้รังสรรค์แล้วช่วยชีวิต... เธอได้ ค่อยว่ากันในเรื่องนั้นอีกอน คาเซอริอุส พิกัดของสายใย: ข้าได้พิกัดจากสายใยแล้ว เจ้าจะต้องไปเยือนตำแหน่งต่างๆ ตามสายใยนั้นเพื่อเข้าถึงตำแหน่งถัดไป
เจ้ามีเครื่องเปิดแผนที่ให้ใช้งานใช่ไหม? ดีแล้ว ไปเจอกันที่นั่น ข้าจะเผยตำแหน่งของความทรงจำแรกเองเกว็นเน็น นักพนัน เปิดแผ่นดินหาอดีต: ข้าเชื่อว่าคนบ้านนอกอย่างเจ้าก็คงอยากเห็นอะไรระเบิดมาบ้างนะ ไม่ต้องสนหรอกน่าว่าทำไมเราถึงมาระเบิดกัน ไว้เราพูดถึงเรื่องนั้นอีกที
ข้าจัดการทำเครื่องหมายให้กับที่ที่น่าจะมีสมบัติกับอันตรายแล้ว คิดเสียว่าข้าเป็นคนที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก็แล้วกัน เจ้าเลือกได้ว่าเราจะเปิดเผยอะไรขึ้นมา เพราะข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะมีดวงเช่นไรบ้าง ข้าจะรออยู่ตรงนี้ รอให้ไกลห่างที่สุด
วางอุปกรณ์นั่นไว้เป็นลูกโซ่ เราจะระเบิดกันให้น่าชมกันไปเลยเกว็นเน็น นักพนัน โบราณคดีวิถีระเบิด: ที่นี่มีซากอารยธรรมดึกดำบรรพ์อยู่มากมายในทวีปนี้ เหมือนว่าซากอารยธรรมบางอย่างจะมีอิทธิพลลึกลับอยู่ การทำลายซากอารยธรรมแล้วปล่อยพลังพวกนี้ออกมามันก็ออกจะเสี่ยงสักหน่อย แต่ผลตอบแทนอาจจะคุ้มค่าก็เป็นได้
หลังจากที่ทำลายซากอารยธรรมชิ้นหนึ่ง ของที่โผล่ขึ้นมาหลังจากนั้นก็มีลักษณะต่างกันไปเล็กน้อย เจ้าลองติดตั้งวัตถุระเบิดใกล้ๆ กับชิ้นที่อยู่ตรงนั้นสิ? มาดูกันว่าจะเป็นยังไง |
9 | สยบเพลิงผู้ถูกทอดทิ้ง สยบเพลิงผู้ถูกทอดทิ้งสยบเพลิงผู้ถูกทอดทิ้ง |
10 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะเดียวดายพูดคุยกับอีกอนเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะเดียวดาย |
11 | จับตาดูอีกอน จับตาดูอีกอนที่ทำการถ่ายความทรงจำออกมาจับตาดูอีกอนที่ทำการถ่ายความทรงจำออกมา |
12 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะเดียวดายพูดคุยกับอีกอนเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะเดียวดาย |
13 | เข้าไปในห้วงขณะเดียวดาย เข้าไปในห้วงขณะเดียวดายเข้าไปในห้วงขณะเดียวดาย |
14 | ตามหารูปธรรมแห่งการทอดทิ้ง ตามหารูปธรรมแห่งการทอดทิ้งตามหารูปธรรมแห่งการทอดทิ้ง |
15 | สยบรูปธรรมแห่งการทอดทิ้ง สยบรูปธรรมแห่งการทอดทิ้งสยบรูปธรรมแห่งการทอดทิ้ง |
16 | ค้นหารอยแยกความทรงจำอีกแห่งในแผนที่ระดับ 15+ ค้นหารอยแยกความทรงจำอีกแห่งในแผนที่ระดับ 15+ค้นหารอยแยกความทรงจำอีกแห่งในแผนที่ระดับ 15+ |
17 | จับตาดูซานะ ผู้รังสรรค์ จับตาดูซานะ ผู้รังสรรค์จับตาดูซานะผู้รังสรรค์ |
18 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำ |
19 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำ |
20 | ผ่านความทรงจำผู้รังสรรค์แห่งความสะเทือนขวัญให้เสร็จสิ้น ผ่านความทรงจำผู้รังสรรค์แห่งความสะเทือนขวัญให้เสร็จสิ้น ด้วยการพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณผ่านความทรงจำผู้รังสรรค์แห่งความสะเทือนขวัญให้เสร็จสิ้น ด้วยการพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ |
21 | Complete the Chambers of Impurity Complete the Chambers of Impurity.Complete the Chambers of Impurity |
22 | Complete the Chambers of Impurity Complete the Chambers of Impurity.Complete the Chambers of Impurity |
23 | สยบพระคาร์ดินัลแห่งความหวาดกลัว สยบพระคาร์ดินัลแห่งความหวาดกลัวสยบพระคาร์ดินัลแห่งความหวาดกลัว |
24 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะสะเทือนขวัญพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะสะเทือนขวัญ |
25 | จับตาดูอีกอน จับตาดูอีกอนที่ทำการถ่ายความทรงจำออกมาจับตาดูอีกอนที่ทำการถ่ายความทรงจำออกมา |
26 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะสะเทือนขวัญพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะสะเทือนขวัญ |
27 | เข้าไปในห้วงขณะสะเทือนขวัญ เข้าไปในห้วงขณะสะเทือนขวัญเข้าไปในห้วงขณะสะเทือนขวัญ |
28 | ตามหารูปธรรมแห่งความหวาดกลัว ตามหารูปธรรมแห่งความหวาดกลัวตามหารูปธรรมแห่งความหวาดกลัว |
29 | สยบรูปธรรมแห่งความหวาดกลัว สยบรูปธรรมแห่งความหวาดกลัวสยบรูปธรรมแห่งความหวาดกลัว |
30 | ค้นหารอยแยกความทรงจำอีกแห่งในแผนที่ระดับ 16+ ค้นหารอยแยกความทรงจำอีกแห่งในแผนที่ระดับ 16+ค้นหารอยแยกความทรงจำอีกแห่งในแผนที่ระดับ 16+ |
31 | จับตาดูซานะ ผู้รังสรรค์ จับตาดูซานะ ผู้รังสรรค์จับตาดูซานะผู้รังสรรค์ |
32 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำ |
33 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเรื่องความทรงจำ |
34 | ผ่านความทรงจำผู้รังสรรค์แห่งการสักการะให้เสร็จสิ้น ผ่านความทรงจำผู้รังสรรค์แห่งการสักการะให้เสร็จสิ้น ด้วยการพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณผ่านความทรงจำผู้รังสรรค์แห่งการสักการะให้เสร็จสิ้น ด้วยการพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ |
35 | Complete the Theatre of Lies Complete the Theatre of Lies.Complete the Theatre of Lies |
36 | Complete the Theatre of Lies Complete the Theatre of Lies.Complete the Theatre of Lies |
37 | สยบพระเจ้าผู้ลวงหลอก สยบพระเจ้าผู้ลวงหลอกสยบพระเจ้าผู้ลวงหลอก |
38 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะสักการะพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะสักการะ |
39 | จับตาดูอีกอน จับตาดูอีกอนที่ทำการถ่ายความทรงจำออกมาจับตาดูอีกอนที่ทำการถ่ายความทรงจำออกมา |
40 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะสักการะพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเพื่อเปิดวาร์ปไปยังห้วงขณะสักการะ |
41 | เข้าไปในห้วงขณะสักการะ เข้าไปในห้วงขณะสักการะเข้าไปในห้วงขณะสักการะ |
42 | ตามหารูปธรรมแห่งความหวั่นเกรง ตามหารูปธรรมแห่งความหวั่นเกรงตามหารูปธรรมแห่งความหวั่นเกรง |
43 | สยบรูปธรรมแห่งความหวั่นเกรง สยบรูปธรรมแห่งความหวั่นเกรงสยบรูปธรรมแห่งความหวั่นเกรง |
44 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเพื่อเดินทางไปยังรอยแยกความทรงจำพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณเพื่อเดินทางไปยังรอยแยกความทรงจำ |
45 | เข้าไปในรอยแยกความทรงจำ เข้าไปในรอยแยกความทรงจำเข้าไปในรอยแยกความทรงจำ |
46 | จับตาดูซานะกับอีกอน จับตาดูซานะกับอีกอนจับตาดูซานะกับอีกอน |
47 | จับตาดูซานะกับอีกอน จับตาดูซานะกับอีกอนจับตาดูซานะกับอีกอน |
48 | เข้าไปในรอยแยกความทรงจำ เข้าไปในรอยแยกความทรงจำเข้าไปในรอยแยกความทรงจำ |
49 | พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ พูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณพูดคุยกับอีกอนในที่ซ่อนของคุณ |
50 | เควสต์เสร็จสิ้น เควสต์เสร็จสิ้น - คุณได้เผชิญกับความทรงจำหลักของผู้รังสรรค์แล้ว คุณสามารถค้นหารอยแยกความทรงจำเพิ่มเติมได้ในแผนที่ระดับ 16+ |